“ทรัมป์” ขึ้นเวทียูเอ็น ด่ากราด อิหร่าน-มาดูโร-ศาลโลก

แฟ้มภาพ

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ(ยูเอ็นจีเอ) สมัยสามัญ ครั้งที่ 73 ที่สำนักงานใหญ่ยูเอ็น ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยเรียกร้องให้นานาชาติโดดเดี่ยวอิหร่าน

เนื้อหาในถ้อยแถลงของทรัมป์ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นข้อความที่แสดงถึงความอวดดี กระหายสงคราม และปราศจากความละอาย ทั้งยังทำให้อิหร่านออกมากล่าวหาว่า ทรัมป์พยายามที่จะโค่นล้มรัฐบาลอิหร่านชุดปัจจุบัน

ทรัมป์ระบุว่าอิหร่านเป็นผู้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความสับสนวุ่นวาย ความตาย และการทำลายล้าง ซึ่งเป็นเหตุผลให้เขาต้องถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ชาติตะวันตกทำกับอิหร่าน เพราะไม่สามารถปล่อยให้ชาติที่สนับสนุนการก่อการร้ายครอบครองอาวุธที่อันตรายที่สุดในโลกได้ พร้อมกับเรียกร้องให้นานาชาติโดดเดี่ยวอิหร่านที่ยังคงมีพฤติกรรมที่ถือเป็นการรุกรานประเทศอื่น

ผู้นำสหรัฐยังใช้โอกาสนี้ตำหนินายนิโกลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา รวมถึงสถาบันระหว่างประเทศอย่างศาลโลก และยังเรียกเสียงหัวเราะจากผู้นำโลกด้วยการกล่าวยกย่องผลงานของรัฐบาลภายใต้การนำของเขา ด้วยการชูนโยบาย ‘อเมริกาต้องมาก่อน’ ซึ่งเป็นนโยบายที่สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายไปทั่วโลกในปัจจุบัน

ในทางตรงกันข้าม ทรัมป์ได้กล่าวชื่นชมนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งถือเป็นเป้าหลักในการโจมตีของเขาในการกล่าวถ้อยแถลงในเวทียูเอ็นจีเอปีเมื่อที่ผ่านมา โดยชื่นชมผู้นำเกาหลีเหนือว่ามีความกล้าหาญ แต่มาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือจะยังต้องคงอยู่ต่อไป

ขณะที่นายฮัดซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงโดยยืนยันพันธกรณีของอีหร่านต่อข้อตกลงนิวเคลียร์ และยังเยาะเย้ยทรัมป์ว่าเป็นผู้นำที่วิปริตผิดปกติ ซึ่งมีพฤติกรรมโดดเดี่ยวตนเอง เขายังแสดงท่าทีไม่สนใจข้อเสนอให้อิหร่านกลับสู่โต๊ะเจรจากับสหรัฐ และว่าสหรัฐไม่สามารถหลอกลวงใครได้ว่าไม่ได้มีความพยายามที่จะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองในอิหร่าน

 

ที่มา มติชนออนไลน์