รอยเตอร์สรายงานว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นในไตรมาสที่สองพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 10 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากผู้กำหนดนโยบายคาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะช่วยหนุนให้ราคาผู้บริโภคปรับตัวลงสู่เป้าหมายที่ 2 เปอร์เซ็นต์
ด้านนักวิเคราะห์ออกมาเตือนว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวในเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน เนื่องจากภัยธรรมชาติที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตเเละการบริโภค ซึ่งการชะลอตัวอาจสร้างภาวะเงินเฟ้อถึง 2 เปอร์เซ็นต์
- ขาลงยางพารา ราคาร่วงฉุดไม่อยู่ 10 วันราคาตกลงไปแล้ว 7 บาทกว่า
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
นายโยชิกิ ชินจ์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยชีวิตดาอิชิ กล่าวว่า ช่องว่างด้านบวกของเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นเป็นข่าวดีสำหรับธนาคารกลางญี่ปุ่น BOJ ซึ่งราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการหนุนอัตราเงินเฟ้อได้ โดยการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอาจกระทบถึง 1 เปอร์เซ็นต์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
“ข้อมูลเศรษฐกิจในเดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนกันยายนยังเป็นสิ่งที่ไม่ดีมากนัก ช่องว่างด้านผลผลิตของญี่ปุ่นซึ่งวัดความแตกต่างระหว่างผลผลิตที่เกิดขึ้นจริงและศักยภาพของเศรษฐกิจอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.86 เปอร์เซ็นต์ในเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนซึ่งอยู่ในแดนบวกในไตรมาสที่ 7เป็นไปตามการประมาณการณ์ของ BOJ”
ทั้งนี้ BOJ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆในเดือนกรกฎาคมเพื่อให้กรอบนโยบายมีความยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งสิ่งสำคัญของธนาคารกลางแห่งญี่ปุ่นคือการรักษาการประตุ้นเศรษฐกิจให้นานที่สุด เพื่อให้เกิดช่องว่างทางผลผลิตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เเละจะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม เเนวทางการขยายเศรษฐกิจที่ยั่งยืนยังคงมีความเสี่ยงจากสงครามการค้า เเละภัยธรรมชาติที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในธุรกิจ โดยอัตราเงินเฟ้อประจำปีของญี่ปุ่นแตะระดับ 0.9 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนกรกฎาคม แต่อยู่ห่างจากเป้าหมายที่ธนาคารกลางเเห่งญี่ปุ่นตั้งเป้าไว้