กลายเป็นกระแสลบต่อเนื่องในกรณีที่สหราชอาณาจักร (ยูเค) ที่อาจต้องถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) โดยไร้ข้อตกลงทางการค้า หรือที่เรียกว่า “No-deal Brexit”
คำเตือนล่าสุดจาก “รอส แม็กอีวาน” ประธานบริหาร รอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ (RBS) ในอังกฤษ กล่าวกับบีบีซี ว่า สถานการณ์เบร็กซิตในปัจจุบันกำลังน่าเป็นห่วงอย่างมาก หลังจากที่รัฐบาลอังกฤษส่งสัญญาณเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า จะออกจากอียูแบบถอนรากถอนโคน คือจะไม่มีข้อตกลงระหว่างกันอีกต่อไป นับตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2019 ที่ยูเคจะสามารถถอนตัวออกจากสมาชิกของอียูได้อย่างเป็นทางการ
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ประธานบริหารของ RBS เตือนว่า “โน-ดีล เบร็กซิต” อาจส่งผลเสียรุนแรงต่อเศรษฐกิจของยูเคให้เข้าสู่ภาวะถดถอยได้ ขณะที่นักธุรกิจกำลังประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งชะลอแผนการลงทุนอย่างไม่มีกำหนด หรือรอจนกว่าสถานการณ์จากรัฐบาลอังกฤษจะชัดเจนขึ้น โดยนายแม็กอีวานอ้างคำกล่าวของนักธุรกิจรายใหญ่ที่ระบุว่า อีก 6 เดือนข้างหน้าจะกลับมาประเมินตลาดลอนดอนอีกครั้งว่าจะกลับมาลงทุน หรือหันไปเพิ่มการลงทุนที่ประเทศอื่นแทน
ธุรกิจที่ชะลอการลงทุนส่วนใหญ่ คือ ธุรกิจค้าปลีกและโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ในลอนดอน นายแม็กอีวานยังกล่าวอีกว่า ความไม่แน่นอนของเบร็กซิตยังส่งผลกระทบต่อกำไรของธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง รวมทั้งธนาคาร RBS
“แม้ว่าภาพรวมความต้องการเงินกู้ทั่วประเทศยังไม่เปลี่ยนแปลงมาก แต่การปล่อยกู้ให้กับธุรกิจขนาดใหญ่เพื่อขยายการลงทุนปีนี้ลดลงแล้ว 2% และนั่นหมายถึงกำไรของธนาคารต่าง ๆ”
ทั้งนี้ ค้าปลีกรายเล็กและขนาดกลางที่ได้รับผลกระทบจากเบร็กซิตมีจำนวนมากขึ้น จากการศึกษาของ RBS คาดว่าร้านค้าราว 2,000 สาขาในอังกฤษ เตรียมจะปิดตัวภายในปีนี้ และส่วนหนึ่งมาจากการถูกกดดันจากธุรกิจค้าปลีกออนไลน์
ประธานบริหารกล่าวทิ้งท้ายว่า ธนาคารตั้งเป้าการเติบโตกำไรปีหน้า 1-1.5% แต่หากข้อสรุปของเบร็กซิตเลวร้ายจะส่งผลต่อกำไรและราคาหุ้นของธนาคารมากขึ้นอีก