รายงานของที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยโลกร้อนระบุว่า เวลากำลังหมดลงทุกทีสำหรับการเปลี่ยนแปลงหายนะภัยอันเกิดจากภาวะโลกร้อน และหนทางเดียวที่จะหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ความวุ่นวายดังกล่าวได้ จำเป็นที่สังคมและเศรษฐกิจโลกจะต้องมีการปรับเปลี่ยนความคิดครั้งใหญ่ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ขณะนี้อุณหภูมิพื้นผิวโลกเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส ซึ่งมากเพียงพอที่จะทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น และยังส่งผลให้เกิดพายุที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นตามด้วยปัญหาน้ำท่วมและภาวะภัยแล้ง ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หากอุณหภูมิเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 3-4 องศาเซลเซียส
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค.2567
- เรือชนสะพานถล่มในสหรัฐ กระทบเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าเป็นอัมพาต
ทั้งนี้ภายใต้การปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปัจจุบันอุณหภูมิโลกน่าจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 1.5 องศาเซลเซียสในปี 2573 หรืออีกเพียง 12 ปีข้างหน้า ดังนั้นช่วงเวลาไม่กี่ปีข้างหน้าถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับมนุษยชาติ
รายงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพพูมิอากาศ (ไอพีซีซี) ชี้ว่าผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกเกิดขึ้นรวดเร็ว และยังส่งผลกระทบรุนแรงกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ด้วยเช่นกัน ผู้บริหารกรีนพีซระบุว่าสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตกำลังเกิดขึ้นแล้วในขณะนี้
หนทางที่จะทำให้มีโอกาส 50/50 ที่การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกจะต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียสภายในปี 2593 โลกจะต้องปรับเปลี่ยนให้มีสถานะของ “คาร์บอนไดออกไซด์แบบสมดุล” มันคือต้องมีการดึงคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากโลกในปริมาณที่เท่ากับที่ปล่อยออกไป ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะดำเนินการ