บีบีซีรายงานว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ (National Bureau of Statistics) กล่าวว่าตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจไตรมาส 3 ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนของจีน อยู่ที่ 6.5 เปอร์เซ็นต์ จากปีที่แล้ว ซึ่งลดลงจากการประมาณการของรอยเตอร์สที่ 6.6 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ จีนกำลังเชิญหน้ากับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงระดับหนี้ที่สูงขึ้น เเละสงครามการค้าที่ทวีความรุนเเรงระหว่างจีนเเละสหรัฐ โดยคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อตัวเลขการเติบโตในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ราคาทองวันนี้ (24 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณ 41,100 บาท
สำหรับตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ที่เผยเเพร่ในวันนี้นั้น นับว่าเติบโตช้ามากที่สุดนับตั้งเเต่ไตรมาสเเรกของปี 2009 ซึ่งขณะนี้ผลประกอบการลดลงจาก 6.7 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสก่อน เเต่ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายตลอดทั้งปีที่รัฐบาลประมาณไว้ที่ 6.5 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่นักสังเกตการณ์จีนให้ความระมัดระวังกับตัวเลขจีดีพี อย่างเป็นทางการของปักกิ่งซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกมองว่าเป็นตัวบ่งชี้ต่อการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ
นอกจากนี้ เป็นเวลาหลายปีที่จีนได้ผลักดันให้ยกเลิกการส่งออก เเละพึ่งพาการบริโภคภายในประเทศ เพื่อการเติบโต อีกทั้งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาปักกิ่งได้ดำเนินการเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศรวมถึงการลดความต้องการเงินทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องและลดการชะลอตัว
โดยข้อมูลอื่นๆ ที่เปิดเผยเมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าการเติบโตของผลผลิตของโรงงานในเดือนกันยายนไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ขณะที่ยอดขายปลีกในเดือนนี้มีการคาดการณ์ขึ้นมาจากที่คาดเอาไว้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น