หน่วยงานป้องกันการผูกขาดทางการค้าของประเทศอิตาลี (เอจีซีเอ็ม) ระบุเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า เอจีซีเอ็มสั่งปรับบริษัทแอปเปิล และซัมซุง สองบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ของโลกเป็นมูลค่า 10 และ 5 ล้านยูโร หรือราว 375 ล้านบาทและ 187 ล้านบาทตามลำดับ ฐานจงใจทำให้สมาร์ทโฟนของผู้บริโภคช้าลงผลจากการอัพเดทระบบปฏิบัติการ
โดยแถลงการณ์ของเอจีซีเอ็ม ระบุว่า จากการสืบสวนพบว่าแอปเปิล และซัมซุง บังคับให้ลูกค้าติดตั้งซอฟท์แวร์เพื่ออัพเดทระบบปฏิบัติการที่ไม่รองรับกับอุปกรณ์ ส่งผลให้อุปกรณ์ทำงานช้าลงและเกิดขึ้นผิดพลาดขึ้น โดยไม่ได้แจ้งลูกค้าถึงผลที่จะเกิดขึ้นหลังการอัพเดทดังกล่าว ส่งผลให้เป็นการเร่งให้ลูกค้าซื้ออุปกรณ์ใหม่เร็วยิ่งขึ้น
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- ดัน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” จับตาย้าย “ท่าเรือคลองเตย”
โดยเอจีซีเอ็มยกตัวอย่างกรณีซัมซุงแนะนำให้ลุกค้าที่ใช้ซัมซุงกาแล็กซี่โน้ต4 ในปี 2014 ให้อัพเดทซอฟท์แวร์ที่ทำขึ้นเพื่อซัมซุงกาแล็กซี่โน้ต7 ขณะที่แอปเปิล ก็แน่นำให้ผู้ใช้งานไอโฟน 6 อัพเดทระบบปฏิบัติการที่ใช้กับไอโฟน7 โดยที่ไม่มีคำเตือนว่าการอัพเดทดังกล่าวจะส่งผลให้อุปกรณ์ช้าลง
ด้านซัมซุงระบุผ่านแถลงการณ์ว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินดังกล่าว ขณะที่แอปเปิลยังไม่มีการตอบรับใดๆเกี่ยวกับคำสั่งปรับดังกล่าว ขณะที่ก่อนหน้านี้แอปเปิลเคยถูกร้องเรียนเรื่องลดความเร็วเครื่องรุ่นเก่ามาแล้ว
ทั้งนี้การสอบสวนกรณีดังกล่าวมีขึ้นหลังลูกค้ายื่นฟ้องร้องเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะที่แอปเปิลถูกสั่งจ่ายค่าปรับมากกว่าซัมซุง 5 ล้านยูโรเนื่องจากถูกปรับกรณีไม่แจ้งลูกค้าให้มีการเปลี่ยนแบตเตอรีอย่างเหมาะสมด้วยอีกประเด็นหนึ่ง
ที่มา มติชนออนไลน์