“ทรัมป์” ลั่นแผนใช้ “คำสั่งฝ่ายบริหาร” เลิกให้สิทธิพลเมืองโดยกำเนิด

REUTERS/Jonathan Ernst

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ประกาศแผนที่จะใช้ “คำสั่งฝ่ายบริหาร” เพื่อยกเลิกสิทธิตามรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเป็นพลเมืองโดยกำเนิดของบุคคลที่คลอดบนแผ่นดินสหรัฐ อันเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของทรัมป์ในการเดินหน้านโยบายต่อต้านการอพยพเข้าเมืองของตนเองในช่วงเวลาที่เหลือไม่ถึง 1 สัปดาห์ก่อนหน้าที่การเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐจะมีขึ้นในต้นสัปดาห์หน้า

โดยทรัมป์แสดงความเชื่อมั่นกับแอ็กซิออสว่าตนมีอำนาจมากพอที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ได้ด้วยการใช้ “คำสั่งฝ่ายบริหาร” ตามอำนาจประธานาธิบดี ผู้นำสหรัฐยังวิจารณ์ต่อกฎระเบียบในปัจจุบันด้วยการประกาศอย่างเข้าใจผิดๆว่าสหรัฐอเมริกามีลักษณะเฉพาะตัวในการมอบสิทธิความเป็นพลเมืองให้ด้วยวิธีนี้

“เราเป็นประเทศเดียวในโลกที่บุคคลใดที่เข้ามาแล้วมีลูก บุคคลนั้นจะได้เป็นพลเมืองของสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 85 ปีพร้อมกับสิทธิประโยชน์ทุกอย่าง ซึ่งช่างน่าขันและต้องจบสิ้นลงเสียที” ทรัมป์กล่าว และว่า ตนได้หารือกับที่ปรึกษาทางกฎหมายเกี่ยวกับแผนการนี้แล้วและเรื่องนี้กำลังอยู่ในกระบวนการการทำงาน ซึ่งจะเกิดขึ้นด้วย “คำสั่งฝ่ายบริหาร”

อย่างไรก็ดีข่าวระบุว่า โดยข้อเท็จจริงแล้วแม้ประเทศส่วนใหญ่ในโลกไม่ได้ให้สิทธิความเป็นพลเมืองโดยอัตโนมัติแก่ทารกเกิดใหม่ แต่มีมากกว่า 20 ประเทศรวมถึงแคนาดาที่ให้สิทธิความเป็นพลเมืองเหมือนกับสหรัฐแก่เด็กที่เกิดจากผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย

การประกาศแผนการนี้ของทรัมป์จุดปฏิกิริยาของสมาชิกร่วมพรรครีพับลิกันหลายคนที่ย้ำถึงความเป็นไปไม่ได้ในการที่จะเปลี่ยนแปลงหลักสำคัญของระบบการอพยพเข้าเมืองของสหรัฐด้วยการลงนามในคำสั่งเชิงบริหาร

ทว่ายังมีสมาชิกพรรครีพับลิกันอีกหลายคนที่พยายามจะตั้งคำถามกับหลักการดังกล่าวของบทบัญญัตินี้ โดยนายลินด์ซีย์ แกรมห์ วุฒิสมาชิกรีพับลิกัน ทวีตชื่นชมแผนการนี้ของทรัมป์ว่า “ในที่สุดประธานาธิบดีก็มุ่งที่จะจัดการกับนโยบายไร้สาระเกี่ยวกับความเป็นพลเมืองตามสิทธิโดยกำเนิด” ที่นายแกรมห์ชี้ว่าเป็น “แม่เหล็กดึงดูด” ผู้อพยพผิดกฎหมายเข้ามายังสหรัฐ

ทั้งนี้รัฐบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 14 ของสหรัฐ บัญญัติไว้ว่า “บุคคลใดที่กำเนิด หรือได้รับสัญชาติในสหรัฐอเมริกา และอยู่ภายใต้เขตอำนาจดังกล่าวนั้น ให้ถือเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกาและของรัฐนั้นๆ อันเป็นถิ่นพำนัก”

ข่าวยังระบุว่า สิทธิความเป็นพลเมืองของสหรัฐสำหรับผู้ที่เกิดในประเทศสหรัฐทั้งหมดจะได้รับการปกป้องภายใต้รัฐบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 14 ขณะที่การจะแก้ไขบทบัญญัติใดในรัฐธรรมนูญจะต้องได้รับเสียงข้างมากสนับสนุนอย่างน้อย 2 ใน 3 ของสภาคองเกรสสหรัฐ

 

ที่มา มติชนออนไลน์