ซีเอ็นบีซี รายงาน นิค มาโร นักวิเคราะห์จาก Economist Intelligence Unit (EIU) ระบุสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่ทวีความรุนแรง ในระยะสั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อเอเชียอย่างกว้างขวาง แต่ในภูมิภาคอื่นจะยังคงได้ประโยชน์ในระยะยาว
มาโร กล่าวว่า ซัพพลายเชนส์ในภูมิภาคเอเชียได้รับผลกระทบอย่างไม่น่าเชื่อ “ผลจากสงครามการค้าในระยะสั้นนั้น คาดว่าจะมีผลทั่วทั้งภูมิภาค”
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
นักวิเคราะห์ระบุว่า 3 อุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ได้แก่ เทคโนโลยี ยานยนต์ และเกษตรกรรม โดยเวียดนาม มาเลเซีย และไทยอาจจะได้ประโยชน์ในบางส่วน เช่น ข้อมูลและเทคโนโลยีการสื่อสาร
ผู้ชนะด้านเทคโนโลยี
รายงาน EIU ระบุว่า เวียดนามและมาเลเซียอาจได้รับประโยชน์มากที่สุดจากสงครามการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีการผลิตขั้นต่ำ สำหรับชิ้นส่วนระดับกลางและการผลิตสมาร์โฟน คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค
บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในสองประเทศดังกล่าว ซึ่งจะทำให้มีการสับเปลี่ยนกำลังแรงงานในการลงทุนและการผลิตได้อย่างดียิ่งขึ้น
“ภาษีส่วนมากที่เก็บนั้นรวมถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักร ซึ่งคาดการณ์ว่าภาษีที่เพิ่มขึ้นรวมสินค้าที่ผลิตเบ็ดเสร็จแล้ว เช่น สมาร์ทโฟน แล็ปท็อป และเพื่อเป็นการผลักดันให้เรื่องเทคโนโลยีเข้าไปอยู่ในวาระความมั่นคงคงระดับชาติ”
ภาคส่วนเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในสงครามการค้าเนื่องจากอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องส่วนมากเป็นประเภทสินค้าที่นำเข้าจากจีนสู่สหรัฐ และรัฐบาลสหรัฐต้องการขัดขวางนโยบายเมด อิน ไชน่า 2025 ของจีน ซึ่งเน้นนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นพิเศษ
ผู้ชนะด้านยานยนต์
กำแพงภาษีสหรัฐที่เก็บกับชิ้นส่วนยานยนต์จะมีผลต่อซัพพลายเชนส์และการลงทุนต่อผู้เล่นในภูมิภาคนี้ เช่น ไทยและมาเลเซีย
“สหรัฐคือตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับยานยนต์และเป็นตลาดที่เก็บภาษีชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งเป็นการกดดันผู้ผลิตในประเทศจีน” มาโร กล่าวและต่อว่า ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นคือจะเกิดการกระจายการลงทุนใหม่และปรับเปลี่ยนซัพพลายเชนส์บางส่วน
รายงาน EIU ระบุว่า พื้นที่การผลิตยานยนต์ไทยอยู่ในจุดที่ได้เปรียบ เนื่องจากมีการเชื่อมโยงกับสหรัฐ ญี่ปุ่น และส่วนอื่นๆ ในอาเซียน ดังนั้น ผู้ผลิตควรสามารถดึงส่วนแบ่งทางการตลาดจากคู่แข่งชาวจีนได้
ด้านมาเลเซียซึ่งมีผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์กว่า 800 ราย และมีเครือข่ายส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์จำนวนมาก นี่จึงถือเป็นจุดแข็งของมาเลเซีย
ผู้แพ้ในเอเชีย
ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสิงคโปร์ คือประเทศที่จำเป็นต้องพึ่งพาการส่งออกจากจีน ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้รับผลกระทบในระยะสั้นจากสงครามการค้า
“จีนคือปลายทางที่สำคัญสำหรับตลาดสินค้าไอซีทีทั้ง 4 ประเทศ หมายความว่าบริษัทเหล่านี้จะได้รับผลกระทบหนักเมื่อกำแพงภาษีถูกตั้งขึ้นสูง”
นี่อาจเป็นผลกระทบระยะยาวที่ทำให้หลายบริษัทตัดสินใจเปลี่ยนจุดยืนโดยการไม่พึ่งพาจีนอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ไต้หวันและเกาหลีใต้อาจได้รับแรงกดดัน เนื่องจากประเทศเหล่านี้อยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัยด้วยเพราะมีเทคโนโลยีระดับสูง