“ฮอนด้า” จ่อย้ายฐานการผลิต “SUV” จากมะกันไปจีน – เซ่นพิษเทรดวอร์

อาเซียน นิคเคอิ รีวิว รายงาน ฮอนด้า มอเตอร์ส จ่อแผนเพิ่มการผลิตรถหรูแบรนด์ลูก “Acura” ตัดสินใจย้ายฐานการผลิตมายังจีน ทดแทนการนำเข้าจากสหรัฐ

การนำเข้ารถจากสหรัฐต้องเสียภาษีถึง 40 % เนื่องจากการตั้งกำแพงภาษีสูงซึ่งเป็นผลมาจากเทรดวอร์ระหว่างสหรัฐและจีน โดยผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นอาจจะใช้วิธีการย้ายบานการผลิตเช่นนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีจำนวนมาก

ผู้ผลิตยานยนต์ “ฮอนด้า” ในประเทศจีน ร่วมทุนกับบริษัท “กว่างโจว ออโต้โมบิล กรุ๊ป” และ “ถงเฟิ่ง มอเตอร์ กรุ๊ป” โดยปีนี้ (จนถึงมีนาคม 2561) บริษัทมียอดขายยานยนต์ในจีนสูงถึง 1.45 ล้านคัน คิดเป็น 30 % ของการผลิตทั้งหมด

จีนถือเป็นตลาดที่ใหญ่อันดับสองของฮอนด้า รองจากสหรัฐ ซึ่งสามารถผลิตได้ราว 1.64 ล้านคันในปีเดียวกัน

รถยนต์ “SUV” ขนาดกลาง RDX รุ่นใหม่ เริ่มผลิตเมื่อเร็วๆ นี้ในโรงงานของกว่างโจว ออโต้โมบิล ซึ่งรถยนต์รุ่นก่อนหน้าที่ขายในจีนเป็นรถที่นำเข้าจากสหรัฐ

ฮอนด้าพิจารณาการย้ายฐานการผลิตมาสู่จีนเมื่อราวเดือนกรกฎาคม ช่วงที่จีนกับสหรัฐเริ่มตั้งกำแพงภาษีกันอย่างรุนแรง

การย้ายฐานการผลิต ฮอนด้าต้องการที่จะลดต้นทุนการแข่งขันและตักตวงดีมานด์ท้องถิ่นเพิ่มมากยิ่งขึ้น

เดือนกรกฎาคม จีนลดกำแพงภาษีสำหรับยานยนต์จาก 25 % เหลือ 15 % ยกเว้นรถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐ ถูกตั้งกำแพงภาษีสูงถึง 40 %

ดังนั้น การผลิตรถยนต์ในจีนจึงไม่ถูกเรียกเก็บภาษี แม้ว่าชิ้นส่วนบางประเภทยังคงนำเข้าจากสหรัฐ จึงถูกเรียกเก็บภาษีเฉพาะส่วน

ฮอนด้าคาดหวังว่า รถยนต์รุ่นใหม่จะถูกลง 20 % กว่ารุ่นก่อน ซึ่งมีราคา 399,800 หยวน หรือประมาณ 57,400 ดอลลาร์

ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันซึ่งเป็นคู่แข่งอย่าง BMW และ Daimler ขึ้นราคารถยนต์ที่นำเข้าจากสหรัฐเพื่อขายในตลาดจีน ฮอนด้าหวังว่าราคาที่ถูกลงของ RDX รุ่นใหม่ จะช่วยกระตุ้นยอดขายได้

ก่อนสงครามการค้าจะทวีความรุนแรงและกำแพงภาษีจะตั้งสูงขึ้น จีนตั้งภาษีนำเข้ารถยนต์ค่อนข้างสูงที่ 25% ทำให้รถยนต์แบรนด์ Acura ขายได้ค่อนข้างจำกัดในตลาดจีน ประมาณ 16,384 คัน หรือเทียบเปผ็นสัดส่วนเพียง 1 % จากจำนวนที่ขายทั่วโลกในปี 2017


อย่างไรก็ดี ฮอนด้าเห็นโอกาสการเติบโตที่สำคัญในตลาดจีน โดยเฉพาะเทรนด์รถยนต์หรู ซึ่งจะตั้งเป้ายอดขายต่อปีกว่า 10,000 คัน หรือเทียบกับ 10 เท่าของเป้าหมายที่วางไว้ในครั้งก่อน