เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เจแปนแอร์ไลน์ สายการบินพาณิชย์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น จะนำระบบวัดปริมาณแอลกอฮอล์จากลมหายใจมาไว้ประจำสายการบินในสนามบินต่างๆ ทั่วโลก เป็นหนึ่งมาตรการใหม่ที่เข้มงวดในการป้องกันนักบินดื่มสุราขณะจะปฏิบัติหน้าที่ ที่จะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยในการทำการบิน ซึ่งมีขึ้นหลังจากเกิดกรณีอื้อฉาวที่หนึ่งในนักบินของเจแปนแอร์ไลน์ถูกจับเนื่องจากเมาสุราที่สนามบินฮีทโธรว์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อเร็วๆ นี้
นักบินคนดังกล่าวของเจแปนแอร์ไลน์ที่ถูกจับคือนาย คัตสึโตชิ จิสึคาวะ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมที่สนามบินฮีธโรว์เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากถูกตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดได้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดถึง 9 เท่า โดยนายจิสึคาวะถูกตรวจพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 189 มิลลิกรัมต่อเลือด 100 มิลลิลิตร จากที่กฎหมายในประเทศอังกฤษกำหนดให้นักบินมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดได้ไม่เกิน 20 มิลลิกรัม
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
โดยระบบวัดปริมาณแอลกอฮอล์จากลมหายใจและการกำหนดบทลงโทษลูกเรือที่ฝ่าฝืนกฎเรื่องการดื่มสุรา ยังเป็นหนึ่งในหลายมาตรการที่เจแปนแอร์ไลน์จะนำมาใช้หลังจากเกิดหลายกรณีที่เที่ยวบินของเจแปนแอร์ไลน์เกิดเหตุดีเลย์เนื่องจากนักบินเมาสุราด้วย
เจแปนแอร์ไลน์สแถลงว่า บริษัทถือเอาเรื่องการฝ่าฝืนกฎระเบียบเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างจริงจัง โดยความปลอดภัยยังคงถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดของทางสายการบิน พร้อมทั้งขอโทษต่อทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากกระทำของนักบินคนดังกล่าว
ขณะที่โฆษกของเจแปนแอร์ไลน์เปิดเผยว่า นับจากเดือนสิงหาคมปี 2560 เกิดกรณีที่นักบินของเจแปนแอร์ไลน์ไม่ผ่านการทดสอบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายถึง 19 กรณี ที่ยังเป็นผลให้เที่ยวบินจำนวน 12 เที่ยวบินต้องดีเลย์ ส่วนอีก 7 เที่ยวบินยังให้บริการได้ตามปกติก หลังจากมีการเปลี่ยนตัวนักบินได้ทัน ขณะที่ตามกฎระเบียบของทางสายการบินกำหนดห้ามนักบินดื่มสุราภายใน 24 ชั่วโมงก่อนจะปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้เจแปนแอร์ไลน์สนำระบบวัดปริมาณแอลกอฮอล์จากลมหายใจมาใช้ที่สนามบินฮีทโธรว์และสนามบินภายในประเทศของญี่ปุ่นแล้ว และจะเริ่มใช้ในสนามบินแห่งอื่นๆ ในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้
ที่มา มติชนออนไลน์
