ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางสหรัฐออกมาสั่งระงับคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่ปฏิเสธการขอสถานะผู้ลี้ภัยของบรรดาผู้อพยพที่พยายามข้ามพรมแดนเข้ามาในสหรัฐโดยผิดกฎหมาย ซึ่งได้ลงนามไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อรับมือกับการเดินเท้าของคาราวานผู้อพยพจากหลายประเทศในละตินอเมริกามุ่งตรงมายังพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโก
ทั้งนี้ผู้พิพากษาจอน ไทการ์ ในซานฟรานซิสโก ได้ออกคำสั่งยับยั้งคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์เป็นการชั่วคราว หลังฟังคำโต้แย้งโดยกลุ่มองค์กรสิทธิมนุษยชน โดยผู้อพยพระบุว่าพวกเขาต้องหลบหนีการถูกข่มเหง ความยากจน และความรุนแรงจากบ้านเกิดในฮอนดูรัส กัวเตมาลา และเอลซัลวาดอร์
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- หุ้นไทยดิ่งหนัก ตลาดหลักทรัพย์ออก Statement ชี้แจง
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
ก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยกล่าวว่า ผู้อพยพจำนวนมากเป็นอาชญากร และเรียกการเดินขบวนของกลุ่มผู้อพยพเหล่านี้ว่าเป็นการรุกรานสหรัฐ ทั้งยังส่งทหารจำนวนมากไปเสริมกำลังตลอดแนวชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก เพื่อป้องกันการอพยพหลบหนีของกลุ่มผู้อพยพดังกล่าวเข้ามาในสหรัฐ และว่ากลุ่มคนเหล่านี้พยายามจะเข้ามาในสหรัฐเพราะแรงจูงใจทางการเมือง
ผู้พิพากษาไทการ์ระบุว่า ภายใต้กฎหมายสหรัฐ ชัดเจนว่าชาวต่างชาติที่เดินทางมาถึงสหรัฐไม่ว่าจะเข้ามาทางจุดใด มีสิทธิที่จะยื่นของสถานะผู้ลี้ภัยในสหรัฐได้ ดังนั้นคำกล่าวอ้างของประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จึงเป็นเรื่องที่ห่างไกลจากแนวปฏิบัติที่มีอยู่
“ไม่ว่าประธานาธิบดีสหรัฐจะมีขอบเขตอำนาจในการบริหารอย่างไร แต่เขาไม่มีสิทธิที่จะเขียนกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองขึ้นใหม่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐสภา”ผู้พิพากษาไทการ์กล่าว ทั้งนี้คำตัดสินของผู้พิพากษาถือว่ามีผลทันที และศาลได้นัดไต่สวนอีกครั้งในเดือนธันวาคมเพื่อตัดสินคดีต่อไป
ที่มา มติชนออนไลน์
