
เมื่อ 27 พ.ย. เอพี รายงานวิเคราะห์ การเสด็จเยือนประเทศพันธมิตรชาติอาหรับของมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย ว่าเป็นการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของพระองค์ ว่ายังทรงมีอิทธิพลในภูมิภาค หลังเกิดคดีฆาตกรรมเขย่าโลกซึ่งพระองค์ทรงตกเป็นที่ครหาพัวพันการสังหารนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวอิสระชาวซาอุฯ และคอลัมนิสต์สื่อวอชิงตันโพสต์ที่เคยวิจารณ์พระองค์
มกุฎราชกุมารซัลมาน เริ่มเสด็จบาห์เรน วันที่ 26 พ.ย. มีสมเด็จพระราชาธิบดีของบาห์เรนฮาหมัด บิน อิซา อัลคาลิฟา เสด็จต้อนรับ จากนั้นวันที่ 27 พ.ย. นายพลอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ประธานาธิบดีอียิปต์ มารับเสด็จถึงที่สนามบินในกรุงไคโรอย่างอบอุ่น
อย่างไรก็ตาม ที่ตูนิเซีย ชาติประชาธิปไตยจากการปฏิวัติอาหรับสปริง กลุ่มประชาสังคมเปิดแถลงต่อต้านการรับเสด็จพระองค์ในวันที่ 29 พ.ย. ขณะที่สมาคมสตรีประชาธิปไตยขึ้นป้ายผ้าเต็มหน้าอาคาร ว่าไม่ต้อนรับคนประหารสตรี
นอกจากนี้ที่สเปน ชาติยุโรป เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่สื่อมวลชนและชาวสเปนต่อองค์ฆวน การ์โลสที่ 1 อดีตกษัตริย์แห่งสเปน ว่าทรงทำให้ประเทศอับอาย หลังกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบียเผยแพร่ภาพพระองค์คู่กับเจ้าฟ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ที่งานแข่งรถกรังด์ปรีซ์ ในนครอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
เอช.เอ. เฮลล์เยอร์ นักวิชาการประจำสถาบันรอยัล ยูไนเต็ด เซอร์วิส มองว่า ทริปของเจ้าชายต้องการฟื้นฟูและกระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรในภูมิภาค รวมถึงการเสด็จยังเวทีการประชุมผู้นำกลุ่มจี-20 ที่กรุงบูเอโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา วันที่ 30 พ.ย.นี้
“พระองค์ต้องการแสดงให้เห็นว่าทรงหลุดพ้นออกมาจากพายุแล้ว หรือไม่ก็เพื่อจะฝ่าฟันพายุออกมา นี่เป็นสิ่งที่พระองค์ต้องการทำ” นักวิชาการกล่าว
สำหรับการสอบสวนคดีนายคาช็อกกีถูกสังหารภายในสถานกงสุลซาอุฯ ประจำนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 2 ต.ค. แต่ยังไม่พบศพนั้น มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตุรกีบุกค้นวิลลาของนายโมฮัมเหม็ด อาเหม็ด อัล-ฟอว์ซาน นักธุรกิจชาวซาอุฯ พระสหายสนิทของมกุฎราชกุมารซัลมาน เพื่อหาร่องรอยศพนายคาช็อกกี ที่จังหวัดยาโลวา ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาค้นอยู่นานถึง 10 ชั่วโมง เพราะต้องสงสัยว่าอาจเป็นที่ซ่อนชิ้นส่วนศพของนายคาช็อกกี หลังพบเบาะแสว่านายมันซูร์ ออธมาน สมาชิกทีมสังหารพูดคุยกับนายฟอว์ซาน หนึ่งวันก่อนลงมือฆ่านายคาช็อกกี
ที่มา ข่าวสดออนไลน์