สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธฺบดีฝรั่งเศส ลงพื้นที่พร้อมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงสำรวจความเสียหาย พร้อมเรียกประชุมฉุกเฉิน หลังจากการประท้วงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมากลายเป็นการจลาจลครั้งรุนแรงที่สุด พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่เจรจาหารือกับแกนนำการประท้วงในครั้งนี้
มาครง ได้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลรักษา และทบทวนมาตรการความปลอดภัยต่อความรุนแรงที่ทำให้ผู้ประท้วงบาดเจ็บนับร้อยคนทั่วประเทศ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- หุ้นไทยดิ่งหนัก ตลาดหลักทรัพย์ออก Statement ชี้แจง
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
สำหรับความเสียหายนั้นกลุ่มผูประท้วงได้พ่นสีสเปรย์ด่ารัฐบาลบริเวณประตูชัย ทุบทำลายทรัพย์สิน อาคารต่างๆเสียหายจำนวนมากได้รับความเสียหาย รวมทั้งเผารถยนต์ด้วย
อย่างไรก็ตามในการเรียกประชุมด่วนของประธานาธิบดีฝรั่งเศสหลังจากบินกลับทันทีจากการร่วมประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หรือ G20 ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินหรือไม่
ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมไปพบกับตัวแทน “กลุ่มเสื้อกั๊กสีเหลือง” แต่การเจรจาไม่เป็นผลสำเร็จ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงปารีสกล่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีผู้ประท้วงถูกจับกุมด้วยกัน 412 คน และถูกคุมตัว 378 คน ซึ่งเป็นการปะทะกันครั้งที่เลวร้ายที่สุด
“ความรุนแรงอย่างนี้่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และไม่เคยมานานนับทศวรรษ”
สำหรับจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั่วประเทศมีจำนวน 263 คน โดยเป็นผู้บาดเจ็บในเมืองหลวง 133 คน ซึ่งในจำนวนนี้รวมเจ้าหน้าที่ด้วย 23 คน
อนึ่ง การประท้วงของกลุ่ม “เสื้อกั๊กสีเหลือง” เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่าน เนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลขึ้นราคาน้ำมันดีเซลในประเทศ และมุ่งผลักดันให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานสะอาดแทน