จากกรณีการประท้วง “ม็อบเสื้อเหลือง” กลางกรุงปารีส ซึ่งยืดเยื้อมาแล้วกว่า 3 สัปดาห์ จากความไม่พอใจการทำงานของรัฐบาล ภายใต้การนำของประธานาธิบดีมานูเอล มาครง ที่ประกาศปรับขึ้นภาษีน้ำมัน เพื่อกระตุ้นให้ชาวฝรั่งเศสเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถยนต์ จากรถยนต์ที่ใช้นำมันฟอสซิลแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะ “น้ำมันดีเซล” เปลี่ยนไปสู่การใช่รถยนต์ “พลังงานสะอาด” 100% ในปี 2040
“แอนนี่ อีดัลโก” นายกเทศมนตรีกรุงปารีสของฝรั่งเศส คาดการณ์ว่า การประท้วงในกรุงปารีสในขณะนี้ได้สร้างความเสียหายไปแล้วกว่า 3-4 ล้านยูโร (ประมาณ 3.4-4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และเป็นไปได้ที่ความเสียหายจะเพิ่มขึ้นอีก หากรัฐบาลยังไม่สามารถหยุดการจลาจลได้เร็วๆ นี้
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- พบรอยร้าวบ่อฝังกลบกากแคดเมียมของ เบาด์ แอนด์ บียอนด์
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
ทั้งนี้ มีรายงานจากสื่อท้องถิ่นว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย และได้รับบาดเจ็บ 222 คน ส่วนจำนวนผู้ที่ถูกจับกุมมากถึง 1,424 คน
นอกจากนี้ สื่อท้องถิ่นของฝรั่งเศส ระบุด้วยว่า การสำรวจการประท้วงครั้งนี้ จำนวนผู้ประท้วงมากถึง 84% เป็นกลุ่มชนชั้นกลาง ซึ่งได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังจากที่รัฐบาลปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลแล้ว 23% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ราคาในปัจจุบันอยู่ที่ลิตรละ 1.51 ยูโร