บริษัทจีนแห่ IPO ในสหรัฐ โต้คลื่น “สงครามการค้า”

ในช่วงหลายปีก่อนบริษัทเทคโนโลยีของจีนทยอยเข้าตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาต่อเนื่อง ผ่านการเสนอขายหุ้นครั้งแรก (IPO) เพื่อระดมทุนเสริมความแกร่งให้กับธุรกิจ ทั้งยังเป็นการสร้างมูลค่าบริษัทเพิ่มด้วย แต่ปัญหาสงครามการค้าที่ยังยืดเยื้อ รวมถึงสัมพันธ์ที่ย่ำแย่จากการ “บอยคอต” สินค้าของสองประเทศ อาจทำให้การระดมทุนขายหุ้น IPO ของบริษัทเทคโนโลยีจีนในตลาดสหรัฐไม่สดใสเหมือนเดิม

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า บริษัทเทคโนโลยีของจีนยังมีข้อจำกัดในการเปิดรับทุนจากต่างชาติ โดยกฎหมายระบุห้ามต่างชาติเข้ามาลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีของจีนโดยตรง การขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ เป็นวิธีหนึ่งที่บริษัทเทคโนโลยีจีนจะสามารถระดมทุนได้อย่างเต็มที่

การรุกคืบของบริษัทเทคโนโลยีของจีนในสหรัฐปรากฏชัดขึ้น ตั้งแต่ที่ “อาลีบาบากรุ๊ป” ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจีนเปิดขายหุ้น IPO ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก เมื่อปี 2014 ด้วยราคาหุ้นละ 68 ดอลลาร์ และระดมทุนไปได้ 21,800 ล้านดอลลาร์ ทำให้บริษัทมีมูลค่าตามราคาตลาดเพิ่มขึ้นกว่า 170,800 ล้านดอลลาร์ ในขณะนั้น ซึ่งสูงกว่ามูลค่าตลาดของอีเบย์, ทวิตเตอร์ และลิงก์อิน รวมกัน

รายงานข่าวระบุว่า จนถึงขณะนี้มีบริษัทเทคโนโลยีเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐกว่า 65 บริษัท นายริงโก โชอี้ นักวิเคราะห์และหัวหน้าฝ่าย IPO ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก บริษัท Ernst & Young กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทเทคโนโลยีของจีนมีจำนวนเพิ่มขึ้นมหาศาล และเข้ามาโลดแล่นอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐมากขึ้น โดยปีนี้มีบริษัทเทคโนโลยีจีนเข้าขายหุ้น IPO ในสหรัฐแล้วกว่า 40 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2017 อยู่ที่ 17 ราย

เช่น “iQiyi” แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งวิดีโอจากจีน หรือที่เรียกว่า “Netflix China” บริษัทลูกของ Baidu เสิร์ชเอ็นจิ้นรายใหญ่ของจีน ซึ่งเปิดขายหุ้น IPO ในราคา 18 ดอลลาร์ และระดมทุนไปได้ทั้งหมด 2,300 ล้านดอลลาร์ โดยมูลค่าตามราคาตลาดของ iQiyi ในปัจจุบันอยู่ที่ 12,700 ล้านดอลลาร์ บริษัทระบุว่า เงินส่วนหนึ่งที่ได้จะนำไปลงทุนขยายคอนเทนต์ให้หลากหลายขึ้นเพื่อเจาะตลาดในต่างประเทศ

“Pinduoduo” เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซน้องใหม่ของจีน ซึ่งมีอายุเพียง 3 ปี ได้เปิดขายหุ้น IPO ในสหรัฐเมื่อ เม.ย.ที่ผ่านมา ในราคาหุ้นละ 19 ดอลลาร์ และสามารถระดมทุนไปได้ 1,600 ล้านดอลลาร์ โดยมูลค่าตลาดของบริษัทอยู่ที่ 24,000 ล้านดอลลาร์ รวมถึง “Huya” แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งวิดีโอเกมจากจีน ที่เข้ามาระดมทุนได้ 15,000 ล้านดอลลาร์ และ “Bilibili” สตรีมมิ่งแอนิเมชั่น ที่เปิดขายหุ้น IPO มูลค่า 483 ล้านดอลลาร์

ขณะที่ “Tencent Music” แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งมิวสิกรายใหญ่ของจีน ในสังกัดเทนเซ็นต์ ถือเป็นบริษัทจีนรายล่าสุดที่ประกาศขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ในราคาหุ้นละ 13 ดอลลาร์ ซึ่งสามารถระดมทุนไปได้ 1,100 ล้านดอลลาร์ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เทนเซ็นต์มิวสิกมีมูลค่าอยู่ที่ 21,300 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่าสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของบริษัทเทคโนโลยีของจีนแล้ว อาจทำให้การขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐในปีหน้าลดน้อยลงด้วย เพราะอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้ระดมทุนได้ต่ำกว่าเป้าหมาย

ขณะเดียวกัน “อเล็กซ์ อิบราฮิม” หัวหน้าฝ่ายตลาดทุนระหว่างประเทศ ของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก กล่าวว่า สงครามการค้าที่รุนแรงเริ่มส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นบริษัทเทคโนโลยีของจีนบางราย เช่น Pinduoduo ที่ราคาหุ้นลดลงในช่วงหลายเดือนก่อน จนทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทลดลงไปอยู่ในระดับที่มีการจดทะเบียนครั้งแรก

นอกจากนี้ นายพอล กิลลิซ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจจาก Guanghua School of Management ในปักกิ่ง กล่าวว่า ปี 2019 ความไม่แน่นอนของสงครามการค้าที่มากขึ้น อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในมูลค่าธุรกิจเทคโนโลยีของจีนที่ซื้อขายในตลาดหุ้นต่างประเทศได้ และเศรษฐกิจจีนที่ยังส่อแววชะลอตัว และอาจลากยาวไปจนถึงปี 2020 หากรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ทางการค้ากับสหรัฐได้

 

 

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!