นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ออกมาให้สัมภาษณ์พิเศษในช่วงเทศกาลปีใหม่โดยยืนยันว่า เขายังยึดมั่นในความตั้งใจที่จะทำให้คาบสมุทรเกาหลีเป็นเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ แต่เตือนว่าความตั้งใจดังกล่าวอาจจะเปลี่ยนแปลงได้หากสหรัฐยังยืนกรานว่าจะคงมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือไว้เช่นนี้ต่อไป และยังคงยืนยันให้เกาหลีเหนือต้องดำเนินมาตรการใดๆ เพียงฝ่ายเดียว
ในแถลงการณ์ปีใหม่ซึ่งถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์เกาหลีเหนือ ผู้นำคิมระบุว่า ความก้าวหน้าในการปลดอาวุธนิวเคลียร์จะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วหากสหรัฐดำเนินมาตรการต่างๆ ที่สอดคล้องควบคู่กันไป พร้อมกับย้ำว่าเขามีความตั้งใจที่จะพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ในเวลาใดก็ได้เพื่อที่จะทำให้เกิดผลในทางบวกที่ประชาคมระหว่างประเทศจะให้การตอบรับอย่างดี
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- เลิกอุ้มดีเซล 30 บาท จ่อขยับเพดานราคา 2 บาท มีผล 1 เมษายน 2567
“หากสหรัฐไม่รักษาสัญญาที่ทำไว้ต่อหน้าประชาคมโลก และยังคงยืนกรานที่จะคว่ำบาตรและเพิ่มแรงกดดันต่อเกาหลีเหนือต่อไป เราอาจไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องพิจารณาหาทางใหมที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยเหนือดินแดนและผลประโยชน์ของเกาหลีเหนือ”คิม จอง อึน กล่าว แต่ไม่มีการให้รายละเอียดว่า หนทางใหม่ที่เกาหลีเหนือจะเลือกเดินนั้นคือทางใด
หลังการหารือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างนายคิม จอง อึน และประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อเดือนมิถุนายน 2561 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผู้นำเกาหลีเหนือได้หารือกับผู้นำสหรัฐที่ยังคงอยู่ในตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ดูเหมือนจะไม่มีความคืบหน้าใดๆ เกิดขึ้นมากนัก แม้แต่การหารือครั้งที่ 2 ระหว่างกันที่ทรัมป์แสดงความคาดหวังว่าน่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปีนี้ ก็ดูเหมือนจะยังไม่มีความแน่นอนว่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ เพราะการหารือเตรียมการที่กำหนดจะมีขึ้นในปลายปีที่ผ่านมาก็ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากเกาหลีเหนือให้เหตุผลว่าไม่พร้อม
ที่มา มติชนออนไลน์