นักวิทยาศาสตร์ออกมาเตือนว่า ภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งในขั้วโลกใต้ละลายอย่างรวดเร็วในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หรือเร็วขึ้น 6 เท่าเมื่อเทียบกับ 40 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก
ปัจจุบันการละลายของน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น 1.4 เซ็นติเมตร นับตั้งแต่ปี 2522 – 2560 แต่ด้วยปริมาณการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกใต้ในระดับที่เกิดขึ้นขณะนี้ จะทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจนอาจส่งผลร้ายตามมา
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- ตรวจหวย ใบตรวจหวย ผลรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน 2567
- ราคาทองวันนี้ (17 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 350 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 42,050 บาท
นายอีริค ริกนอต ประธานภาควิชาวิทยาศาสตร์โลกทั้งระบบของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย หนึ่งในผู้เขียนหลักของรายงานดังกล่าวระบุว่า แผ่นน้ำแข็งที่ขั้วโลกใต้กำลังละลายอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้นถึงหลายเมตรในศตวรรษหน้า
ข้อมูลที่เก็บรวมรวมไว้ในช่วงปี 2522 – 2533 น้ำแข็งขั้วโลกใต้ละลายเฉลี่ยปีละราว 40,000 ล้านตันต่อปี แต่ในระหว่างปี 2552 – 2560 น้ำแข็งขั้วโลกใต้ละลายเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า มาอยู่ที่ 252,000 ล้านตันต่อปี และที่น่าวิตกกังวลคือในบางจุด อาทิ แผ่นน้ำแข็งทางฝั่งตะวันออกของขั้วโลกใต้ที่เคยเชื่อว่าเป็นแผ่นน้ำแข็งที่น่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ก็ค่อยๆ หลอมละลายลงเช่นกัน
นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า หากระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้น 1.8 เมตรภายในปี 2643 เมืองริมฝั่งทะเลจำนวนมากซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกจะจมอยู่ใต้น้ำ ทั้งนี้หากน้ำแข็งขั้วโลกใต้ทั้งหมดหลอมละลายหายไป จะส่งผลให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นถึง 57 เมตร