เมื่อวันที่ 17 มกราคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรป(อีซี) ประกาศนำมาตรการเก็บภาษีนำเข้าข้าวเจ้าจากประเทศกัมพูชาและเมียนมากลับมาใช้ใหม่ เริ่มมีผลเป็นทางการในวันที่ 18 มกราคมนี้เป็นต้นไป หลังจากเห็นว่าการนำเข้าข้าวเจ้าที่มีราคาถูกดังกล่าวเข้ามาในตลาดอียูเพิ่มมากขึ้น ได้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับผู้ผลิตในยุโรปเอง โดยอีซีเชื่อว่ามาตรการนี้จะสามารถช่วยลดปริมาณนำเข้าข้าวเจ้าราคาถูกเข้ามาในตลาดอียูลงได้อย่างมากภายใน 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้อียูได้กำหนดอัตราภาษีนำเข้าข้าวเจ้าจากกัมพูชาและเมียนมาเป็นขั้นบันได ซึ่งในปีแรกจะเก็บ 175 ยูโร(ราว 6,300 บาท) ต่อข้าวเจ้า 1 ตัน ปีที่ 2 เก็บลดลงที่ 150 ยูโรต่อตัน และ ปีที่ 3 เหลือ 125 ยูโรต่อตัน
การบังคับใช้มาตรการนี้มีขึ้นหลังจากอีซีสอบสวนพบว่าข้าวเจ้าที่นำเข้ามาจากกัมพูชาและเมียนมาในตลาดอียูมีปริมาณเพิ่มขึ้นมากเป็น 89 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 5 ฤดูกาลที่ผ่านมา และยังพบว่าข้าวเจ้านำเข้าดังกล่าวยังมีราคาถูกกว่ามากในตลาดอียู ซึ่งส่งผลให้กลุ่มผู้ผลิตในยุโรปมีส่วนแบ่งในตลาดอียูลดลงไปมากจาก 61 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 29 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้กัมพูชาและเมียนมา เป็น 2 ประเทศที่ได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าของอียูจากโครงการ “บีอีเอ” หรือการยกเว้นภาษีนำเข้าที่ให้กับสินค้าที่มีแหล่งผลิตจากกลุ่มประเทศพัฒนาน้อยที่สุด ซึ่งครอบคลุมสินค้าทุกประเภท ยกเว้นอาวุธยุทโธปกรณ์
- บัตรเครดิตซิตี้ ย้ายไป UOB บัตรประเภทไหน เปลี่ยนแปลงอย่างไร
- คำแนะนำจาก ซีอีโอ “ฮั่วเซ่งเฮง” ยุคทอง (โคตร) แพง ต้องลงทุนอย่างไร ?
- Q1 “ITD” สะเทือน 4 แบงก์ใหญ่ ส่อตั้งสำรองเพิ่ม-กำไรหด
ที่มา มติชนออนไลน์