“IMF” หั่นคาดการณ์ศก.โลก คาดปีนี้โตร้อยละ 3.5 ชี้“เทรดวอร์สหรัฐ-จีน-เบร็กซิต” ปัจจัยฉุด

REUTERS

เมื่อวันที่ 21 มกราคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ระบุเตือนว่าการเผชิญหน้าทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ปัญหาเบร็กซิท และภาวะไม่แน่นอนของสภาพเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยคุกคามที่จะฉุดลากการเติบโตของเศรษฐกิจโลกให้ดำดิ่งลงมากไปอีก เป็นผลให้เอ็มไอเอฟต้องปรับลดการคาดการณ์ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้าลง โดยไอเอ็มเอฟคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ของโลกในปีนี้จะเติบโตที่ร้อยละ 3.5 ลดลงจากที่ไอเอ็มเอฟเคยประมาณการเอาไว้ในเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมาว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3.7 ขณะที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2563 คาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 3.6

การเผยแพร่รายงานคาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจโลกครั้งนี้ของไอเอ็มเอฟยังมีขึ้นก่อนหน้าที่จะมีการประชุมประจำปีผู้นำทางเศรษฐกิจและการเงินจากทั่วโลกในเวทีการประชุมเวิลด์อีโคโนมิก ฟอรั่ม ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จะเปิดฉากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีการเรียกร้องขอความร่วมมือกันจากทุกฝ่ายในการขจัดความเสี่ยงภัยคุกคามต่างๆที่มีต่อเศรษฐกิจโลก

รายงานของไอเอ็มเอฟระบุว่า เขตเศรษฐกิจหลายชาติสำคัญได้เห็นการปรับลดประมาณการทางเศรษฐกิจลงอย่างมาก ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงเยอรมนี อิตาลี และเม็กซิโก ส่วนฝรั่งเศสปรับลดลงเล็กน้อย อย่างไรก็ดีสองชาติที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก คือ สหรัฐอเมริกาและจีน ที่เป็นต้นตอก่อภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจโลกนั่นคือการทำสงครามการค้าระหว่างกัน ยังไม่มีการปรับการลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจลงไปมากแต่อย่างใด โดยคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้จะเติบโตร้อยละ 2.5 และในปีหน้าโตร้อยละ 1.5 ส่วนเศรษฐกิจจีนคาดว่าทั้งในปีนี้และปีหน้าจะเติบโตที่ร้อยละ 6.2

 

 

ที่มา  มติชนออนไลน์