เอพี รายงานวันที่ 11 ก.พ. ว่า สมาชิกวุฒิสภาสตรีคนที่สองจากพรรคเดโมแครติก หรือ เดโมแครต สหรัฐอเมริกา เปิดตัวขอสู้ศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ 2020 หรือในปีพ.ศ.2563 ต่อเนื่องเป็นคนที่สอง คือ นางเอมี โคลบุชาร์ เปิดตัวท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมาอย่างหนัก บนเวทีริมแม่น้ำมิสซิสซิปปี รัฐมินเนโซตา ขณะที่ผู้สนับสนุนปักหลักยืนเชียร์อย่างไม่ท้อถอย
เอมี โคลบุชาร์ วัย 58 ปี เป็นนักการเมืองที่โดดเด่นในพื้นที่มิดเวสต์ ซึ่งพรรคเดโมแครตพยายามจะทวงคืนผู้สนับสนุนกลับมา หลังจากการเลือกตั้งครั้งก่อนเสียงผู้สนับสนุนในพื้นที่นี้ ช่วยให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรครีพับลิกัน เอาชนะนางฮิลลารี คลินตันของเดโมแครตไปได้
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
“ดิฉันขอให้ท่านร่วมกับเรารณรงค์หาเสียงในครั้งนี้ มีความจำเป็นที่ต้องช่วยกันเยียวยาหัวใจของประชาธิปไตยของเรา ฟื้นหลักการความดีงามขั้นพื้นฐานกลับมาใหม่” นางโคลบุชาร์กล่าว ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้สนับสนุนที่ถือป้ายชื่อ “เอมี”
นักการเมืองหญิงปราศรัยว่า จะต้องปรับปรุงนโยบายการต่างประเทศ ด้วยการรักษาพันธมิตรของอเมริกาไว้ พร้อมกับเคารพทหารที่ไปอยู่แนวหน้า นักการทูต และเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง ที่สำคัญคือต้องยุติการสร้างความกลัวและความเกลียดชังในความแตกต่างกันของประชาชน
เมื่อปลายปีก่อน โคลบุชาร์ชนะศึกชิงเก้าอี้ส.ว.สมัยที่ 3 มาอย่างง่ายดาย โดยได้รับเสียงสนับสนุนจากชาวบ้านในพื้นที่เมือง กึ่งเมือง และชนบท รวมถึงพื้นที่เดิมที่เคยเป็นของนายทรัมป์เมื่อปี 2559 นโยบายที่นักการเมืองหญิงผลักดันคือเรื่อง “ข้อตกลงสีเขียวครั้งใหม่” หรือ Green New Deal มุ่งต่อสู้กับภาวะโลกร้อน สร่างงานหลายพันตำแหน่งในตลาดพลังงานทางเลือก
ก่อนหน้านี้ นางเอลิซาเบธ วอร์เรน ส.ว.รัฐแมสซาชูเส็ตส์ วัย 69 ปี ประกาศตัวสู้ศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดี บนเวทีเมืองลอว์เรนซ์ โดยกระตุ้นให้กลุ่มชนชั้นแรงงานต่อสู้กับความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจ
นางวอร์เรนยังกล่าวโจมตีกลุ่มชนชั้นกลางว่าไม่ช่วยทำให้ชาวอเมริกันแบ่งผลประโยชน์และโอกาสจากกลุ่มคนร่ำรวยได้ รวมถึงแสดงความเห็นถึงนายทรัมป์ ว่าอาจจะไม่ได้อยู่เป็นประธานาธิบดีถึงปี 2020 ก็เป็นได้ ดีไม่ดีก็อาจจะไม่ใช่บุคคลที่ไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ
“สิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2020 จะเป็นตัวตัดสินทิศทางประเทศของเราและประชาชนของเรา ทุกๆ วันที่มีแต่ทวีตเหยียดสีผิวเชื้อชาติ บางทีก็แย่มากๆ แล้วเราในฐานะผู้ท้าชิง นักเคลื่อนไหว สื่อมวลชนควรจะทำอย่างไร เราจะปล่อยให้เขาแบ่งแยกเราต่อไปอย่างนั้นหรือ” นางวอร์เรนกล่าว
ทั้งนี้ยังมีความคาดหมายว่าจะมีสมาชิกหญิงพรรคเดโมแครตเปิดตัวชิงตำแหน่งนี้ตามมาอีกหลายคน
ที่มา ข่าวสดออนไลน์