เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ สืบเนื่องจากกรณีอัยการได้รับการประสานงานจากกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งให้ทราบว่า ทางการประเทศบาห์เรนแสดงความประสงค์ไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีการขอส่งตัว นายฮาคีม อัล อาไรบี เป็นผู้ร้ายข้ามแดนอีก โดยคณะทำงานของอัยการได้ประชุมหารือกันแล้ว ทั้งพิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และ พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ในการยื่นคำร้องขอถอนฟ้องคดี เห็นว่า เมื่อประเทศบาห์เรนแสดงความประสงค์ไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีอีกต่อไป และให้ถอนคำร้องส่งผู้ร้ายข้ามเเดน
กรณีนี้จึงไม่มีประโยชน์ต่อสาธารณะตาม พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 มาตรา 21 ที่บัญญัติให้อัยการมีอิสระในการที่พิจารณาสั่งคดีไปหาอัยการ เห็นว่า การฟ้องคดีอาญาจะไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะก็สั่งไม่ฟ้องได้ ดังนั้น อัยการสำนักงานต่างประเทศจึงยื่นคำร้องขอถอนฟ้องคดีดังกล่าวต่อศาลอาญา และศาลได้สั่งอนุญาตให้ถอนคำฟ้องร้องแล้ว จึงได้มีการปล่อยตัวนายฮาคีมกลับออสเตรเลีย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักข่าวบาห์เรน รายงานว่า นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าเฝ้าเจ้าชายซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งบาห์เรน ที่ประเทศบาห์เรน โดยทั้งสองได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีของไทยและบาห์เรน และมีรายงานด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้โทรศัพท์เพื่อพูดคุยกับเจ้าชายเคาะลีฟะฮ์ บิน ซัลมาน อัล เคาะลีฟะฮ์ นายกรัฐมนตรีบาห์เรน ด้วย