เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวรอยเตอร์วิเคราะห์ข้อมูลมลพิษทางอากาศในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศจีนพบว่า มลพิษทางอากาศใน 39 เมืองอุตสาหกรรมตอนเหนือของจีนนั้นเพิ่มขึ้นมากถึง 16 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่งผลให้จีนอาจไม่สามารถทำได้ตามตามเป้าหมายลดมลพิษทางอากาศในหน้าหนาวปีนี้ได้
รายงานระบุว่าระดับฝุ่นอันตรายอนุภาคขนาดเล็ก พีเอ็ม 2.5 เฉลี่ยในพื้นที่ควบคุมการปล่อยมลพิษสองแห่งของจีนในเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้นเพิ่มขึ้นถึง 16 เปอร์เซ็นต์เทียบกับปีก่อน อยู่ที่ 114 ไมโครกรัมต่อตารางเมตร โดยเมืองที่มลพิษมากที่สุด คือ เมืองหลินเฝิน ในมณฑลซานซี มีระดับพีเอ็ม 2.5 สูงถึง 174 ไมโครกรัมต่อลูกบาตรเมตร สูงขึ้นจากปีก่อนถึง 23 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เมืองสือเจียจวง ในพื้นที่อุตสาหกรรมผลิตเหล็ก ในมณฑลเหอเป่ย มีระดับพีเอ็ม 2.5 อยู่ที่ 144 สูงขึ้นจากปีก่อนถึง 30 เปอร์เซ็นต์
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค.2567
- เรือชนสะพานถล่มในสหรัฐ กระทบเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าเป็นอัมพาต
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากกลุ่มกรีนพีซ ระบุว่ามลพิษที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลจากการผลิตเหล็ก พลังงานความร้อนและปูนซีเมนต์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2018 พร้อมทั้งระบุว่าแนวโน้มดังกล่าวอาจทำให้จีนไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายลดมลพิษทางอากาศ 3 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคม เทียบกับ 12 เดือนก่อนหน้าได้