“ไทย-ลิทัวเนีย” กระชับสัมพันธ์มองโอกาสการค้า-ลงทุนร่วมกันในอนาคต

ในงานเฉลิมฉลองวันสำคัญของประเทศลิทัวเนีย ครบรอบปีที่ 29 และวันก่อตั้งรัฐลิทัวเนียครบรอบ 101 ปี เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก

“อินา มาซิโลนิเต” เอกอัครราชทูตลิทัวเนีย ประจำประเทศจีน ไทย เมียนมา เกาหลี มองโกเลีย และเวียดนาม ซึ่งพำนักอยู่ที่กรุงปักกิ่ง กล่าวกับสื่อมวลชนไทยว่า ภาคการท่องเที่ยวของลิทัวเนียถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่เติบโตเร็วที่สุดในยุโรป นอกจากนี้ลิทัวเนียยังเป็นประเทศที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นของประเทศเรา

โดยมีสถานที่สำคัญๆ ในลิทัวเนีย อาทิเช่น Vilnius สร้างด้วยผังเมืองในยุคกลาง, ลิทัวเนียมีภูมิทัศน์ของเมืองแบบ Baroque และถนนหินกรวดเป็นใจกลางเมืองหลวงของลิทัวเนีย นอกจากนี้ยังเป็นดินแดนแห่งป่าไม้และลำน้ำ โอบล้อมด้วยสนามหญ้า มีถนนที่ปูด้วยหินและโบสถ์บาร็อค ซึ่งเป็นภาพเคลื่อนไหวที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น ชายฝั่งทะเลบอลติกที่ถือว่ามีความสวยงามมากที่สุดของเรา และ “Trakai Castle” หรือ “ทราไก” เป็นเมืองหลวงเก่าของลิทัวเนีย และอีกหนึ่งความโดดเด่น คือ ปราสาท และอาคารบ้านเรือนสไตล์คาเรม (Karkim) แบบบ้านชั้นเดียวมีห้องใต้หลังคา ทาสีสันสดใสสะดุดตา ซึ่งเป็นแบบบ้านโบราณที่รัฐบาลลิทัวเนียอนุรักษ์เอาไว้ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ท่านทูตฯ มาซิโลนิเต กล่าวด้วยว่า “ลิทัวเนีย” ยังเป็นประเทศใหม่สำหรับคนไทย ซึ่งเราต้องการโปรโมตการท่องเที่ยวระหว่างกันมากขึ้น ประเทศเราโดดเด่นในด้าน “ไลฟ์สไตล์” ที่หลากหลายด้าน ทั้งยังเชี่ยวชาญในด้านการแพทย์ โดยเฉพาะนวัตกรรมของ “เรเซอร์” ที่ไม่เป็นรองใคร

นอกจากนี้ ทูตฯ ลิทัวเนีย ระบุว่า “การศึกษา” เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เรากำลังสนใจ โดยที่ผ่านมามีความร่วมมือแล้วกับมหาวิทยาลัยของไทย เช่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อต้องการแลกเปลี่ยนนักศึกษาที่สนใจเข้าโปรแกรมของเรา เป็นการแลกเปลี่ยนในทุกๆ ด้านครอบคลุมตั้งแต่ ภาษา สังคม วัฒนธรรม จนถึงวิทยาศาสตร์ เป็นต้น

โดยทูตฯ ลิทัวเนีย กล่าวถึง “อาหารไทย” และภาคบริการต่างๆ ของไทยที่มีความโดดเด่นอย่างมาก โดยกล่าวไปถึงการส่งเสริมด้านการลงทุนระหว่างกันในอนาคต

ขณะเดียวกัน นางนวลพรรณ ล่ำซำ กล่าวในฐานะที่เป็น กงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐลิทัวเนียประจำกรุงเทพฯ ระบุว่า ลิทัวเนีย ถูกขนานนามให้เป็น 1 ใน 3 ไข่มุกแห่งทะเลบอลติก สะท้อนถึงความสวยงามโดยธรรมชาติที่ยังคงอยู่ นอกจากนี้ ยังเชิญชวนให้นักลงทุนไทยให้รีบคว้าโอกาสใหม่ว่าเป็นโอกาสทองทั้งด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ซึ่งยังมีคนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวน้อยมาก เมื่อเทียบกับชาวลิทัวเนียที่เข้ามาไทย โดยปีที่ผ่านมาเข้ามาเยือนไทยเกือบ 13,000 คน

พร้อมกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า “ในอนาคตคาดว่าจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นระหว่างไทยกับลิทัวเนียมากขึ้น ซึ่งนอกจากโอกาสการค้าการลงทุนของฝั่งไทย ทางลิทัวเนียเองก็มีแผนจะชักชวนกลุ่มนักลงทุนลิทัวเนียเข้ามาในไทยด้วยเช่นกัน”