นายรี ยอง โฮ รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือออกมาย้ำว่า จุดยืนของเกาหลีเหนือจะไม่เปลี่ยนแปลง แม้สหรัฐจะขอให้มีการเจรจาระหว่างกันอีกก็ตาม
การออกมาให้สัมภาษณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังการพบปะระหว่างนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ครั้งที่ 2 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ต้องยุติลงกลางคันโดยปราศจากข้อตกลงใดๆ ระหว่างกัน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ก่อนหน้านี้ทรัมป์ระบุว่า การหารือต้องยุติลง เนื่องจากสหรัฐไม่สามารถดำเนินการตามข้อเรียกร้องของเกาหลีเหนือที่ต้องการให้มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทุกประการได้
อย่างไรก็ดีนายรีได้แถลงข่าวโดยยืนยันว่า เกาหลีเหนือเพียงแต่เรียกร้องให้มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรบางประการ ไม่ใช่การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดลงโดยสิ้นเชิง
รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือกล่าวด้วยว่า เกาหลีเหนือได้ยื่นข้อเสนอที่เป็นไปได้จริง ซึ่งรวมถึงการปลดการใช้งานของศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ยองบยอน ภายใต้การสังเกตการณ์ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสหรัฐ
“ข้อเสนอดังกล่าวเป็นมาตรการเพื่อการปลดอาวุธนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดที่เราสามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงระดับความไว้วางใจที่มีระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐ” นายรีกล่าว
รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือกล่าวว่า สิ่งที่เกาหลีเหนือเรียกร้องมีเพียงการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรบางส่วน ซึ่งส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจรวมถึงสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนเท่านั้น
“จุดยืนของเราในเรื่องนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และข้อเสนอของเราก็จะไม่มีวันเปลี่ยนไป แม้ว่าสหรัฐจะเสนอให้มีการเจรจากันอีกครั้งในอนาคตก็ตาม” นายรีกล่าว
ด้านนางซาร่า แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า ในระหว่างการเดินทางกลับมายังสหรัฐ ทรัมป์ได้โทรศัพท์หารือกับนายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ โดยการหารือกับผู้นำทั้งคู่กินเวลาท่านละ 15 นาที
ขณะที่นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า เขาหวังว่าเจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายจะสามารถกลับมาหารือกันอีกครั้งในเร็วๆ นี้ และว่าเขารู้สึกว่ามันอาจต้องใช้เวลาอีกซักระยะ แต่ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องกลับมาพบกันอีกครั้ง