“ทรัมป์” ตั้งท่าผิดหวัง หากโสมแดงกลับลำทดสอบอาวุธ ภาพดาวเทียมเผยความเคลื่อนไหวที่ฐานยิงจรวด

แฟ้มภาพ นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ (ซ้าย) ขณะพบหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ในการประชุมซัมมิทผู้นำครั้งที่ 2 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ (รอยเตอร์)

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา กล่าวถึงท่าทีที่มีต่อเกาหลีเหนือกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 8 มีนาคมว่า ตนจะรู้สึกผิดหวังอย่างมาก หากเกาหลีเหนือกลับมาทดสอบอาวุธอีก อย่างไรก็ตามทรัมป์ยังคงย้ำว่าความสัมพันธ์ของตนเองและประเทศสหรัฐที่มีกับนายคิม จอง อึน และประเทศเกาหลีเหนือนั้นยังเป็นความสัมพันธ์ที่ดี

ท่าทีของผู้นำสหรัฐมีขึ้นหลังจากการเจรจาสุดยอดผู้นำสหรัฐ-เกาหลีเหนือครั้งที่ 2 ที่มีขึ้นที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประสบความล้มเหลว โดยที่ผู้นำทั้งสองชาติไม่สามารถบรรลุความเห็นพ้องใดๆ ร่วมกันได้ โดยเฉพาะการปลดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี และยังมีขึ้นหลังจากในสัปดาห์นี้ สถาบันทางวิชาการ 2 แห่งของสหรัฐและหน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้กล่าวอ้างว่าเกาหลีเหนืออาจกำลังกลับมาสร้างฐานส่งจรวดใหม่ในเขตโซแฮ ทางตะวันตกของประเทศเกาหลีเหนือ นอกจากนี้หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ยังอ้างด้วยว่ามีการเคลื่อนไหวใหม่เกิดขึ้นที่โรงงานซานัมดง ใกล้กับกรุงเปียงยาง ซึ่งเป็นสถานที่ที่เกาหลีเหนือใช้สร้างขีปนาวุธนำวิถียิงข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) เป็นครั้งแรกที่เกาหลีเหนืออ้างว่ามีสมรรถะยิงโจมตีได้ไกลถึงสหรัฐอเมริกา

โดยเนชั่นแนล พับลิค เรดิโอ (เอ็นพีอาร์) ของสหรัฐ อ้างผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการศึกษาระหว่างประเทศมิดเดิลบิวรี ในมลรัฐแคลิฟอร์เนียชี้ว่า ภาพถ่ายทางดาวเทียมที่ซานัมดงเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ และเมื่อวันที่ 8 มีนาคม เผยให้เห็นว่าเกาหลีเหนืออาจกำลังเตรียมการที่จะยิงขีปนาวุธหรือกระสวยอวกาศก็เป็นได้

เจฟฟรีย์ ลูอิส หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญบอกว่าความเคลื่อนไหวในสถานที่ทั้งสองแห่งข้างต้นอาจมีความเกี่ยวข้องกัน ซึ่งเอ็นพีอาร์ระบุว่าภาพถ่ายทางดาวเทียมเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ แสดงให้เห็นรถยนต์ รถบรรทุก รถรางหลายคัน และรถเครนอีก 2 คัน จอดอยู่ที่โรงงานซานัมดง แต่จากภาพถ่ายเมื่อวันที่ 8 มีนาคม เผยให้เห็นว่าความเคลื่อนไหวในพื้นที่ดังกล่าวค่อยๆ หายไป รวมถึงรถเครนคันหนึ่งก็ได้หายไปด้วย

อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคนให้ความเห็นว่ารายงานหลายชิ้นที่ผ่านมาเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในพื้นที่ซานัมดงกลับกลายเป็นการส่งสัญญาณเตือนที่ผิดพลาด ซึ่งอาจเป็นการเตรียมการยิงหรือไม่ก็ได้

 

 

ที่มา : มติชนออนไลน์