ต่างประเทศ

การเติบโตภาคอุตสาหกรรมของจีน ลดต่ำสุดในรอบ 17 ปี อัตราว่างงานแตะ 5.3 เปอร์เซ็นต์

การเติบโตของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปีในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ เเสดงให้เห็นถึงความอ่อนเเอในเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก

 

รอยเตอร์สรายงานอ้างข้อมูลสำคัญซึ่งเปิดเผยในวันนี้ พบว่า การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดค้าปลีกโดยรวมชะลอตัวลง บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไม่ได้อยู่ในท่ามกลางการชะลอตัวที่รุนแรงในปัจจุบัน

ทั้งนี้จีนกำลังสนับสนุนเเละเพิ่มการช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2019 ดูเหมือนจะลดลงต่ำสุดในรอบ 29 ปี เเต่มาตรการสนับสนุนต่างๆ ต้องใช้เวลาในการรอ โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่าการงานจะยังคงไม่ทรงตัวจนกว่าจะกลางปี

นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ประกาศปรับลดภาษีเเละการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานหลายพันล้านดอลลาร์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้เจ้าหน้าที่ประกาศว่าพวกเขาจะไม่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างเช่นในอดีต ซึ่งก่อให้เกิดการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในประเทศจีน

สำหรับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวกว่า 5.3 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์และเป็นอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2002 โดยการขยายตัวคาดว่าจะชะลอตัวลงสู่ 5.5 เปอร์เซ็นต์ จาก 5.7 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนธันวาคม

การสำรวจโรงงานอย่างเป็นทางการของจีนซึ่งปรับตามฤดูกาลแสดงให้เห็นว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวในเดือนกุมภาพันธ์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2009 ซึ่งผู้ผลิตของจีนกำลังเผชิญกับยอดขายที่ลดลง ทั้งในประเทศและต่างประเทศเนื่องจากการส่งออกที่ได้รับผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ

ด้านการเติบโตของการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญในอดีต เพิ่มขึ้นถึง 6.1 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อยและขยับขึ้นเล็กน้อยจาก 5.9 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2018 เเละกำไรปรากฏขึ้น เนื่องจากการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นถึง 5 ปีสูงถึง 11.6 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่ายอดขายบ้านจะลดลงก็ตาม

นอกจากนี้ การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของภาคเอกชนก็ปรับตัวลดลงเช่นกันโดยเพิ่มขึ้นเพียง 7.5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับในปี 2018 ที่ 8.7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการลงทุนภาคเอกชนมีสัดส่วนประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ของการลงทุนโดยรวมในประเทศจีนและปักกิ่ง

ส่วนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 4.3 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่นักวิเคราะห์หลายคน รวมถึงโนมูระ คาดการณ์ว่า แรงผลักดันการเติบโตอาจผ่อนคลายลงแม้จะมีแรงกดดันจากปักกิ่ง เเละในส่วนของยอดค้าปลีก ตัวเลขดีกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อย เพิ่มขึ้น 8.2 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ จากปีก่อนหน้า ซึ่งสอดคล้องกับเดือนธันวาคม แต่อัตราการเติบโตยังอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปี ที่มาจากความกังวลของผู้บริโภคที่มั่นใจน้อยลงเมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว

อีกทั้งข้อมูลอุตสาหกรรมในสัปดาห์นี้ แสดงให้เห็นว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศจีนลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 ในเดือนกุมภาพันธ์ เเละข้อมูลที่เปิดเผยในวันพฤหัสบดีแสดงให้เห็นว่ายอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์ปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงต้นปี ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับความกังวลเกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เย็นตัวลงและยอดขายบ้านลดลง 3.6 เปอร์เซ็นต์

สำนักงานสถิติของจีนเปิดเผยว่า อัตราว่างงานในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นแตะ 5.3 เปอร์เซ็นต์ จาก 4.9 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนธันวาคม ต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ 5.5 เปอร์เซ็นต์ ในปีนี้

อย่างไรก็ตามแม้จะมีการสนับสนุนเพิ่มเติม แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนคาดว่าจะยังคงอยู่ที่ระดับ 6.2 เปอร์เซ็นต์ ในปีนี้จาก 6.6 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2018 ตามข้อมูลจากสำนักข่าวรอยเตอร์ส