บ้านในอังกฤษปรับราคาลงต่อเนื่อง ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ด้านประชาชนยังชะลอการใช้จ่าย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ราคาบ้านในอังกฤษปรับราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากค่าเงินปอนด์ที่ร่วงลง ดัชนีราคาบ้านรายเดือนของประเทศเผยว่า ราคาบ้านอยู่ที่ 2.1 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนนี้ ซึ่งลดลงจาก 2.9 เปอร์เซ็นต์

นักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์ คาดการณ์โดยเฉลี่ยในการสำรวจความคิดเห็นของการเติบโตประจำปีอยู่ที่ 2.5% เปอร์เซ็นต์

โรเบิร์ต การ์ดเนอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของประเทศ เผยว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาการชะลอตัวของราคาบ้านอยู่ที่ 2-3 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมร้อยละ 4-5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2016 ในเดือนสิงหาคมราคาบ้านร่วงลง 0.1 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 0.2 เปอร์เซ็นต์

ข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยืนยันว่าเศรษฐกิจอังกฤษขยายตัว 0.3% ในช่วงสามเดือนนับจากสิ้นเดือนมิถุนายน-สิงหาคม หรือคิดเป็นอัตราครึ่งหนึ่งของยูโรโซน

ทั้งนี้ผลพวงจากการลงมติ Brexit เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้เศรษฐกิจในช่วงนั้นมีความยืดหยุ่น ในไตรมาสที่สามของปีขยายตัวอยู่ที่ 0.5 เปอร์เซ็นต์ เเละในไตรมาสสุดท้ายขยายตัวอยู่ที่ 0.7 เปอร์เซ็นต์

อีกทั้งก่อนหน้านี้อังกฤษเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย ทำให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในสหราชอาณาจักรอยู่ในระดับต่ำสุด โดยอัตราเงินเฟ้ออย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 2.6 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นจาก 0.6% ในปีก่อนหน้านี้

การ์ดเนอร์ กล่าวว่า ตัวเลขการจำนองที่ได้รับการอนุมัติสำหรับการซื้อบ้าน ลดลงต่ำสุดในรอบ 9 เดือน เเละมีรายงานการสำรวจว่า จำนวนผู้ซื้อรายใหม่ลดลงเช่นกัน เเม้อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มหรือลด เเต่การชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัยยังมีความยืดหยุ่น

“เศรษฐกิจสร้างงานกว่า 125,000 ตำแหน่ง ในช่วงเมษายน-มิถุนายน และอัตราการว่างงานลดลงเหลือร้อยละ 4.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 40 ปี อาจเป็นไปได้ว่าเเรงกดดันที่เพิ่มขึ้นเชื่อมโยงกับสถานภาพทางการเงินของครัวเรือน เเละความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง ซึ่งตลาดที่อยู่อาศัยยังขึ้นอยู่กับฐานเศรษฐกิจที่กว้างขึ้น” การ์ดเนอร์ กล่าว