
สถานการณ์ความตึงเครียดของ “อังกฤษ” เกี่ยวกับการเบร็กซิตจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ยิ่งทวีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นอีก
หลังจากที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรอังกฤษ ลงมติปฏิเสธข้อตกลงเบร็กซิตของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ เป็นครั้งที่ 3 จากการประชุมครั้งล่าสุดในวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่า ข้อตกลงระหว่างอียูกับนายกฯ หญิงของอังกฤษ ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติมใหม่จากข้อตกลงเดิม และไม่มีความชัดเจนใดๆ รายงานของ “รอยเตอร์ส” ระบุ
โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรลงมติ 334-286 ปฏิเสธข้อตกลงถอนตัวออกจากอียูจำนวน 585 หน้าของนายกฯ เมย์ ซึ่งใช้เวลาเจรจากับอียูมานาน 2 ปี
ทั้งนี้ ตัวแทนจากอียู กล่าวแสดงความคิดเห็นด้วยว่า การเบร็กซิตกำลังตกอยู่ในความยุ่งเหยิง และไร้ทางออกชัดเจนขึ้นไปอีก เป็นไปได้ว่า สหราชอาณาจักร (ยูเค) อาจจะต้องถอนตัวออกจากอียูแบบ “ไร้ข้อตกลงร่วม” หรือ no deal ต่อเนื่องจากข้อตกลงล่าสุดที่ทางอียู ได้ระบุว่า หากนายกฯ อังกฤษ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาภายในประเทศได้ และไม่มีข้อตกลงให้กับอียูที่ชัดเจน ศการเบร็กซิตจะเกิดขึ้นอัตโนมัติ ในวันที่ 12 เม.ย. (เลื่อนจากวันที่ 29 มี.ค.)
อย่างไรก็ตาม สภาอังกฤษจะนำ “ตัวเลือกอื่น” ที่ได้เสียงสนับสนุนมากที่สุดในรัฐสภาไปปรับปรุง และจะเปิดให้โหวตกันอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 เม.ย.นี้ เพื่อเป็นการนำเสนอทางเลือกอื่นๆ ให้กับนายกฯ เมย์ ในการนำไปเจรจาต่อรองกับอียูต่อไป
ขณะที่ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ จะเป็นการพบปะกันระหว่างผู้นำอียูทั้ง 27 ประเทศ เพื่อหารือเกี่ยวกับการถอนตัวจากอียูของอังกฤษ
สำหรับกลุ่มนักเคลื่อนไหวในอังกฤษยังเรียกร้องต่อเนื่องให้มีการลงประชามติรอบที่ 2 อีกครั้ง เพื่อฟังเสียงประชาชน