“เทสลา” ส่งมอบรถไตรมาสแรกลดลง 31% หลังเผชิญความท้าทายในการขนส่งไปยังยุโรป-จีน

รอยเตอร์สรายงานว่า ในไตรมาสเเรก การส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าของเทสล่า อิงค์ ลดลงกว่า 31 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากบริษัทต้องดิ้นรนกับการส่งรถซีดาน โมเดล 3 ครั้งเเรกไปยังยุโรปเเละจีน เพราะใช้เวลาในการขนส่งนานขึ้น

เเต่บริษัทยังคงยืนยันคำสั่งส่งมอบรถยนต์ 360,000-400,000 คันในปีนี้ โดยบริษัท กล่าวว่า ได้ส่งมอบรถเพียงครึ่งหนึ่งของไตรมาสในวันที่ 21 มีนาคม โดยมีรถยนต์ 10,600 คันที่ยังอยู่ในระหว่างการขนส่งในช่วงปลายไตรมาส ซึ่งตัวเลขดังกล่าวผิดคาดจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ เเละจากการเปรียบเทียบมีเพียง 1,900 คันที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนรถในช่วงปลายไตรมาสที่สี่

Daniel Ives นักวิเคราะห์จาก Wedbush กล่าวว่า โดยรวมแล้ว ภายในสิ้นไตรมาส คาดว่าการส่งมอบโมเดล 3 จะดีกว่าที่หลายคนกลัว

สำหรับการส่งมอบที่ลดลงในไตรมาสแรกเป็นไปตามคาด เนื่องจากเทสลาเปลี่ยนเป็นครั้งแรกเพื่อส่งมอบโมเดล 3 ใหม่ไปยังจีนและยุโรปในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ท่ามกลางอุปสงค์ที่ชะลอตัวในอเมริกาเหนือและหลังจากเครดิตภาษีสหรัฐปรับลดลงตั้งเเต่ครึ่งปีจนถึงปลายปี 2561

ในวันพุธเทสลา กล่าวว่า การส่งมอบที่ลดลง ส่งผลกระทบต่อกำไรในไตรมาสนี้ รวมไปถึงการปรับลดราคาเมื่อเร็วๆ บริษัทก็ได้ระบุว่าจะทำให้ขาดทุนในไตรมาสเเรก

รายจากข้อมูลของ IBES จาก Refinitiv ระบุว่า เทสลาส่งมอบโมเดล 3 จำนวน 50,900 ในไตรมาสนี้ซึ่งลดลงจากประมาณการของนักวิเคราะห์ที่ 58,900 คัน ยอดผลิตรวมลดลง 10.92 เปอร์เซ็นต์ สู่ 77,100 คันจาก 86,555 คันในไตรมาสที่สี่ บริษัทผลิตโมเดล 3S ออกมาจำนวน 62,950 คัน เพิ่มขึ้นจากทั้งหมด 61,394 คันในไตรมาสที่สี่

อย่างไรก็ตามรถยนต์เทสลา โมเดล 3 เป็นแกนหลักของกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตของเทสลา และอีลอน มัสก์ ประธานบริษัทตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในการส่งมอบรถไปยังตลาดต่างประเทศใหม่อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมกับปกป้องเงินทุนหมุนเวียน