“สหรัฐ-อียู” ยันสังเกตการณ์ “ธนาธร” เป็นแนวปฏิบัติตามปกติทางการทูต

ภาพจากพรรคอนาคตใหม่

หลังกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญเอกอัครราชทูตและอุปทูตจากสถานเอกอัครราชทูตและสหภาพยุโรปรวม 11 แห่ง มาพูดคุยในวันที่ 10-11 เมษายน เพื่อแสดงความห่วงกังวลเกี่ยวกับการปรากฏตัวของผู้แทนการทูตเหล่านี้ที่สถานีตำรวจปทุมวัน เพื่อร่วมรับฟังการแจ้งขอหาต่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า การกระทำดังกล่าวเกินเลยภารกิจทางการทูต และถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทย ทั้งยังละเมิดหลักปฏิบัติและพันธกรณีทางการทูตภายใต้อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตนั้น

ล่าสุดสำนักข่าวเอพีรายงานว่า คณะทูตานุทูตจากชาติตะวันตกได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของกระทรวงการต่างประเทศของไทย พร้อมกับยืนยันว่าสิ่งที่สถานทูตได้ดำเนินการไปถือเป็นแนวปฏิบัติปกติทางการทูต

จิลเลียน บอนนาร์โดซ์ โฆษกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ระบุว่า นายปีเตอร์ เฮย์มอนด์ อุปทูตสหรัฐ ได้ไปเข้าพบเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศตามคำเชิญของกระทรวง อย่างไรก็ดี สถานทูตสหรัฐได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมฟังการพิจารณาคดีในกรณีที่ได้รับความสนใจอย่างสูงทั่วโลก เพื่อรับประกันว่าการดำเนินคดีจะเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม และมีการเคารพหลักกฎหมาย

“การดำเนินการเช่นนี้ถือเป็นแนวปฏิบัติปกติในทางการทูต สหรัฐให้ความสนใจต่อกรณีดังกล่าวเช่นเดียวกับอีกหลายๆ กรณี เราเข้าไปสังเกตการณ์ในกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้ได้ข้อมูลปฐมภูมิในการดำเนินคดี” จิลเลียนระบุผ่านแถลงการณ์ที่เผยแพร่ให้สื่อทางอีเมล์

ขณะที่ผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยก็ออกแถลงการณ์ โดยระบุในประเด็นเดียวกันว่า การสังเกตการณ์การไต่สวนหรือการดำเนินคดีเป็นการดำเนินการตามหลักปฏิบัติปกติทางการทูตที่ทำกันทั่วโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการยึดมั่นต่อสิ่งที่ถือเป็นมาตรฐานสากล อาทิ สิทธิมนุษยชน และการดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย

“การดำเนินการดังกล่าวไม่ได้เป็นสิ่งที่จะบ่งชี้ว่ามีการแทรกแซงทางการเมือง หรือเป็นการให้การสนับสนุนใครคนใดคนหนึ่งเป็นการเฉพาะ” แถลงการณ์ของอียูระบุ

นอกจากนี้ อียูยังได้แสดงความขอบคุณต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่ได้ให้ความร่วมมือในการอำนวยความสะดวกให้กับการสังเกตการณ์ และยังเสนอที่จะบรรยายสรุปให้กับคณะผู้แทนทางการทูตอีกด้วย

 

 

ที่มา : มติชนออนไลน์