นายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศว่าจะเดินหน้าอย่างจริงจังเพื่อจัดการหารือสุดยอดครั้งใหม่กับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ แม้ว่าเมื่อไม่นานมานี้ผู้นำเกาหลีเหนือเพิ่งจะออกมาวิพากษ์วิจารณ์การอ้างตนว่าเป็นผู้มีบทบาทในการเป็นสื่อกลางในการเจรจาเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีที่ประสบภาวะชะงักงันในขณะนี้
ทั้งนี้มุนพยายามที่จะทำให้การเจรจาเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลียังคงมีพลวัตรต่อไป หลังจากที่การเจรจาสุดยอดครั้งที่ 2 ระหว่างคิม และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาประสบความล้มเหลว เนื่องจากจุดยืนในเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ที่ต่างกันระหว่างคิมและทรัมป์
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- เลิกอุ้มดีเซล 30 บาท จ่อขยับเพดานราคา 2 บาท มีผล 1 เมษายน 2567
เมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ผู้นำเกาหลีเหนือระบุว่าพร้อมที่จะเจรจาสุดยอดครั้งที่ 3 กับทรัมป์ หลังจากที่ผู้นำสหรัฐให้สัมภาษณ์ว่าสนใจที่จะให้มีการจัดการพบปะกันครั้งที่ 3 เกิดขึ้น แต่เกาหลีเหนือจะเข้าร่วมเมื่อสหรัฐมีทัศนคติที่ถูกต้องเท่านั้น พร้อมทั้งกำหนดเส้นตายว่าเขาจะรอจนถึงสิ้นปีนี้เท่านั้น
ประธานาธิบดีเกาหลีใต้และผู้นำเกาหลีเหนือได้พบหารือกันมาแล้ว 3 ครั้งในปีที่ผ่านมา โดยรัฐบาลเกาหลีใต้พยายามที่จะจัดให้มีการหารือครั้งที่ 4 เกิดขึ้น ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะจัดเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสในการครบรอบการพบกันครั้งแรกของผู้นำทั้งสองในวันที่ 27 เมษายน
นายมุน แจ อิน กล่าวว่า การแสดงจุดยืนของนายคิม จอง อึน เป็นการวางรากฐานสำหรับการหารือระหว่างผู้นำสองเกาหลีครั้งที่ 4 ซึ่งอาจจะเป็นก้าวสำคัญสำหรับโอกาสที่ใหญ่กว่าและมีผลการหารือที่มีนัยสำคัญมากกว่าด้วย
ผู้นำเกาหลีใต้ย้ำว่า ขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการเตรียมการเพื่อการหารือกันอย่างจริงจังโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งเขาเชื่อว่าเกาหลีเหนือก็พร้อมสำหรับการพูดคุย โดยเขาพร้อมที่จะพบกันผู้นำเกาหลีเหนือไม่ว่าจะเป็นสถานที่ไหนและพบกันในรูปแบบใด
นายมุน แจ อิน ยังกล่าวแสดงความยินดีต่อถ้อยแถลงของผู้นำเกาหลีเหนือ โดยระบุว่าแสดงให้เห็นถึงการยึดมั่นในพันธกรณีที่ไม่เปลี่ยนแปลงต่อการปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี และการเปิดกว้างสำหรับการเจรจาพูดคุย
ที่มา : มติชนออนไลน์