คืบหน้า! ยอดผู้เสียชีวิต เหตุระเบิดในศรีลังกา เพิ่มขึ้นเป็น 290 ราย บาดเจ็บกว่า 500 คน

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานล่าสุด ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดโจมตีในศรีลังกาในวันอีสเตอร์ เพิ่มขึ้นเป็น 290 ราย บาดเจ็บกว่า 500 คน เเละมีคำเตือนว่าจะเกิดการโจมตีเพิ่มขึ้น

 

รายงานระบุว่า ยังไม่มีกลุ่มใดออกมายืนยันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตี เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 2 โบสถ์ เเละโรงเเรมอีก 4 แห่ง โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐกล่าวว่า มีชาวต่างชาติเสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวจำนวน 32 ราย เป็นชาวอังกฤษ อเมริกา ตุรกี อินเดีย จีน เดนมาร์ก ดัตช์เเละโปรตุเกส

นายไมตรีปาละ สิริเสนา ประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ซึ่งอยู่ต่างประเทศขณะเกิดเหตุ ได้เรียกประชุมสภาความมั่นคงเเห่งชาติในวันจันทร์ โดยแหล่งข่าวกล่าวว่า นายรานิล วิกรามาสิงหะ นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประชุมด้วย

โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า การตรวจสอบพื้นที่เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางกลับประเทศของประธานาธิบดี จากสนามบินโคลัมโบในช่วงสายของวันอาทิตย์พบว่า มีระเบิดวางใกล้กับประตูทางออก เเละได้ทำลายเป็นที่เรียบร้อย

ทั้งนี้มีความกลัวว่าจะเกิดเหตุโจมเเละก่อให้เกิดความรุนเเรงอีกครั้ง โดยตำรวจรายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า มีการโจมตีด้วยระเบิดน้ำมันเบนซินในมัสยิดทางตะวันตกเฉียงเหนือและการลอบวางเพลิงที่ร้านมุสลิม 2 แห่งทางตะวันตก

นอกจากนี้ กองกำลังรักษาความปลอดภัยได้บุกเข้าไปในบ้านในโคลัมโบในบ่ายวันอาทิตย์หลายชั่วโมงหลังจากการโจมตี ซึ่งตำรวจรายงานเกิดเหตุระเบิดที่บ้าน เเละเจ้าหน้าที่ 3 คนถูกฆ่าตาย ต่อมาในวันจันทร์ตำรวจกล่าวว่า 24 คนถูกจับกุม ล้วนเป็นชาวศรีลังกาทั้งสิ้น

ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ออกคำเตือนเรื่องการเดินทาง เเละเตือนว่าผู้ก่อการร้ายยังคงวางเเผนต่อไป ซึ่งเป้าหมายที่เป็นไปได้ ได้แก่ จุดท่องเที่ยวศูนย์กลางการขนส่ง ห้างสรรพสินค้า โรงแรมสถานที่สักการะ สนามบินและพื้นที่สาธารณะอื่น ๆ

ในส่วนของสถานการณ์ภายในเมือง ได้มีการสั่งยกเลิกเคอร์ฟิวเป็นที่เรียบร้อย ตั้งเเต่ช่วงเข้าวันจันทร์ ทหารที่มีอาวุธยืนเฝ้าอยู่นอกโรงแรมใหญ่ ๆ และเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในย่านธุรกิจที่โรงแรมทั้ง 4 แห่ง ที่ตกเป็นเป้าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

โดยผู้คนที่ติดค้างคืนที่สนามบินหลักเริ่มเดินทางกลับบ้านเนื่องจากข้อจำกัดถูกยก เเละรัฐบาลยังบล็อกการเข้าถึงโซเชียลมีเดีย และการส่งข้อความ รวมถึงเฟซบุ๊กและ ว็อทแอพ ซึ่งทำให้ยากต่อการรวบรวมข้อมูล

ผู้รอดชีวิตชาวออสเตรเลีย บอกกับวิทยุ 3AW ของออสเตรเลียว่า โรงแรมเป็นฉากของ “การสังหารหมู่แน่นอน” เขาบอกว่าเขาและหุ้นส่วนการท่องเที่ยวกำลังทานอาหารเช้าที่แชงกรีลา เมื่อมีการระเบิดเกิดขึ้นสองครั้ง เขาจำชายสองคนที่สวมเป้สะพายหลัง ซึ่งเห็นก่อนเกิดเหตุเพียงไม่กี่นาที เเละ “มีคนกรีดร้องและศพอยู่รอบตัว เด็กๆ ร้องไห้ เด็กร้องไห้ตามพื้น ผมไม่รู้ว่าพวกเขายังบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต”

อย่างไรก็ตาม ศรีลังกาอยู่ในภาวะสงครามมาหลายสิบปีกับชนกลุ่มน้อยชาวทมิฬผู้แบ่งแยกดินแดนทมิฬ แต่ความรุนแรงได้สิ้นสุดลงตั้งแต่ชัยชนะของรัฐบาลในสงครามกลางเมืองเมื่อ 10 ปีที่แล้ว สำหรับประชากร 22 ล้านคนในศรีลังกา มีประชากรที่นับถือศาสนาคริสต์ มุสลิมและฮินดูประมาณ 8-12 เปอร์เซ็นต์