“จีน” ยังเดินหน้าเจรจาสงครามการค้า “สหรัฐ” ยันขึ้นภาษีจริง

(Andy Wong/REUTERS)

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ผู้แทนของจีนจะยังคงเดินทางไปเจรจาเพื่อหาข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันที่ 8 พ.ค. นี้ แม้ว่าจะมีการขู่ว่าจะขึ้นภาษีจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา

จากทวีตของ “ทรัมป์” ที่ระบุว่าจะมีการขึ้นภาษีสินค้ามูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจาก 10% เป็น 25% ในวันที่ 10 พ.ค. และเตรียมจะเรียกเก็บภาษีสินค้าอื่นเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้ด้วย เนื่องจากการเจรจาทางการค้าดำเนินไปอย่างล่าช้า

ภายหลังจากการขู่ขึ้นภาษีดังกล่าว ทำให้หลายฝ่ายคาดว่าจีนอาจจะถอนตัวจากการเจรจาซึ่งจะทำให้สงครามการค้ายืดเยื้อยาวนานออกไป แต่ นายเกิ้ง ซวง (Geng Shuang) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนยืนยันว่า จีนจะไปเจรจาการค้ากับสหรัฐตามกำหนดการเดิมในวันที่ 8 พ.ค. นี้

นายเกิ้ง ซวงระบุเพิ่มเติมว่า “สิ่งที่เร่งด่วนขณะนี้คือ สหรัฐต้องร่วมมือกับจีนและก้าวเดินไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้เราสามารถบรรลุข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายบนฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน” แต่นายเกิ้ง ซวงไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนการเจรจาการค้าของรองนายกรัฐมนตรีหลิว เหอ (Liu He) ผู้นำคณะผู้แทนของจีนกว่า 100 คนในการเจรจาการค้าครั้งนี้

ขณะที่ทางด้านนายโรเบิร์ต ลิธเซอร์ (Robert Lighthizer) ผู้แทนการค้าของสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน (Steven Mnuchin) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแถลงข่าวยืนยันว่า ในวันที่ 10 พ.ค. ที่จะถึงนี้จะมีการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็น 25% ตามข้อความที่ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีต

“ลิธเซอร์” ยังระบุว่าการขึ้นการเคลื่อนไหวเพื่อกดดันล่วงหน้าด้วยการเพิ่มอัตราภาษีไม่ใช่สัญญาณของความล้มเหลวในการเจรจา ส่วน “มนูชิน” ปฏิเสธที่จะคาดเดาว่าการเจรจาที่จะเกิดขึ้นนี้จะสามารถอุดช่องโหว่และบรรลุข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจได้หรือไม่