เฮอริเคน “ฮาร์วีย์” ทำน้ำมันสหรัฐเริ่มขาดเเคลน ส่งราคาพุ่ง หวั่นกระทบช่วงวันหยุดยาว

ผลกระทบของเฮอริเคนฮาร์วีย์ ส่งผลให้สหรัฐมีปริมาณน้ำมันเริ่มขาดแคลนและมีราคาสูงขึ้นทั่วประเทศ โดยราคาน้ำมันเบนซินขยับขึ้นเฉลี่ยจากแกลลอนละ 2.35 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาอยู่ที่ 2.45 ดอลลาร์สหรัฐ

หลังพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ที่ขึ้นฝั่งรัฐเทกซัสเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 35 ราย เเละสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากเหตุมหาอุทกภัยครั้งใหญ่มหาศาล

โดยเฉพาะทำให้น้ำมันขาดแคลน ราคาขายปลีกทำสถิติสูงสุดในปีนี้ แม้ว่าสหรัฐมีน้ำมันเบนซินสำรองอยู่เกือบ 250 ล้านบาร์เรลก็ตาม เนื่องจากโรงเก็บส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมหนักเเละห่างไกล

จากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงดังกล่าวในช่วงนี้ มีความเสี่ยงที่จะกระทบการเดินทางในช่วงวันหยุดยาว ตั้งแต่วันเสาร์จนถึงวันจันทร์หน้า ซึ่งเป็นวันแรงงานของสหรัฐ โดยราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและน้ำมันเครื่องบินเพิ่มขึ้น จากกำลังการกลั่นหายไปอย่างน้อยวันละ 4.4 ล้านบาร์เรล หรือเกือบ 1 ใน 4 ของกำลังการกลั่นทั้งประเทศ

ขณะเดียวกัน ยังต้องเฝ้าระวังโรงงานหลายแห่งในรัฐเท็กซัส เพราะยังเป็นสถานที่ตั้งของโรงงานเคมีและโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งที่ได้รับผลจากถูกน้ำท่วม โดยก่อนนี้คลังน้ำมันของบริษัทเบอร์ลิงตันรีซอร์สเซส ในรัฐเท็กซัส ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมท่อส่งน้ำมัน ทำให้น้ำมันดิบประมาณ 385 บาร์เรลรั่วไหลไปถึงเมืองเวสต์ฮอฟและเมืองฮอชไฮม์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองฮุสตัน ประมาณ 240 กิโลเมตร

ทั้งนี้ คาดว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นไปอีก โดยเฉพาะราคาในเดือนกันยายน เเต่ก็จะปรับลดลงในเดือนตุลาคม เนื่องจากโรงกลั่นสามารถกลับมาผลิตน้ำมันได้ตามปกติ ประกอบกับจะมีน้ำมันจากยุโรปและจากเเหล่งอื่นๆ เข้ามาในตลาดสหรัฐด้วย