อ่าวเปอร์เซียเครียด! “ซาอุฯ” โวยเรือบรรทุกน้ำมันโดนวินาศกรรม “อิหร่าน” จี้แจงให้เคลียร์

แฟ้มภาพ นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานซาอุดีอาระเบีย (เอเอฟพี)

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า วันจันทร์นี้ (13 พ.ค.) นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบีย ออกโรงแถลงว่าเรือบรรทุกน้ำมันของซาอุฯ 2 ลำ ถูกก่อวินาศกรรมโจมตีนอกชายฝั่งเมืองฟูเจราห์ เมืองท่าสำคัญของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์(12 พ.ค.)ที่ผ่านมา ส่งผลให้เรือบรรทุกน้ำมันทั้ง 2 ลำได้รับความเสียหาย ท่ามกลางเสียงก่นประณามของชาติพันธมิตรในภูมิภาคและการประกาศเตือนของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อสถานการณ์ตึงเครียดในอ่าวเปอร์เซีย

รัฐมนตรีพลังงานซาอุฯกล่าวว่า เหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.00 น.ของวันเกิดเหตุ ขณะเรือลำหนึ่งในนั้นกำลังจะเข้าไปบรรทุกน้ำมันดิบซาอุฯจากท่าเรือราสทานูรา เพื่อไปส่งมอบให้กับลูกค้าของบริษัทน้ำมันอารามโกของซาอุฯในประเทศสหรัฐ โชคดีที่เหตุโจมตีดังกล่าวไม่ได้ทำให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรือมีน้ำมันรั่วไหลออกมา แต่ก็สร้างความเสียหายให้กับโครงสร้างเรือทั้งสองลำ อย่างไรก็ดีรัฐมนตรีพลังงานซาอุฯไม่ได้ระบุว่าเรือบรรทุกน้ำมันที่เกี่ยวข้องคือเรือใด หรือสงสัยว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตี แต่กล่าวว่าเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นมุ่งหมายที่จะบ่อนทำลายเสรีภาพทางทะเลและความมั่นคงต่อการจัดหาน้ำมันให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก

คำแถลงของซาอุฯมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากสื่อท้องถิ่นของอิหร่านและเลบานอนรายงานข่าวที่ไม่เป็นความจริงว่าเกิดเหตุระเบิดหลายครั้งขึ้นที่เมืองท่าของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และยังมีขึ้นหลังจากสำนักงานทางทะเล กระทรวงคมนาคมของสหรัฐ ประกาศเตือนให้ระวังถึงความเป็นไปได้ที่อิหร่าน ชาติคู่ปรับของสหรัฐ หรือตัวแทนของอิหร่าน อาจจะก่อเหตุโจมตีการสัญจรทางทะเลในภูมิภาคนี้ และเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา กองทัพสหรัฐยังได้ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินและเครื่องบินทิ้งระเบิดบี-52 เข้าไปยังอ่าวเปอร์เซียด้วยเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากอิหร่าน

ด้านกระทรวงต่างประเทศอิหร่านเรียกร้องขอความชัดเจนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรือบรรทุกน้ำมันซาอุฯ พร้อมกับเรียกร้องให้มีการสอบสวนและเตือนว่าการสมคบคิดของผู้ประสงค์ร้ายที่กระทำในสิ่งที่เป็นภัยจะบ่อนทำลายเสถียรภาพและความมั่นคงทางทะเลในภูมิภาค

ทั้งนี้บรรยากาศในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียตึงเครียดขึ้นหลังจากรัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านและชาติมหาอำนาจที่ทำกันไว้ในปี 2015 และรัฐบาลสหรัฐได้ฟื้นการคว่ำบาตรต่ออิหร่านขึ้นอีกครั้ง ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอิหร่านออกมาขู่ว่าจะเริ่มเดินหน้าเสริมสมรรถะยูเรเนียมในระดับสูงภายใน 60 วัน หากชาติมหาอำนาจไม่ยอมเจรจาใหม่ในข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน

 

 

ที่มา : มติชนออนไลน์