
รัฐบาลจีน ประกาศมอบเงินสนับสนุนแผนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ชั้นนำ 5 ชาติ หรือกลุ่มบริคส์ กว่า 76.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 2,500 ล้านบาท) และอีก 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 130 ล้านบาท) สำหรับโครงการจัดตั้ง “ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งใหม่” หรือเอ็นดีบี
นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน กล่าวระหว่างการประชุมกลุ่มผู้นำ 5 ชาติ “บริคส์” ( BRICS ) ประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ที่เมืองเซี่ยเหมินวันนี้ว่า รัฐบาลปักกิ่งเตรียมจัดสรรงบประมาณ 76.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว2,500 ล้านบาท) เพื่อการดำเนินงานตามแผนพัฒนาด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีระหว่างสมาชิกของบริคส์
นอกจากนี้ จีนจะจัดสรรงบประมาณเพิ่มอีก 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 132 ล้านบาท ) ให้กับธนาคารเพื่อการพัฒนาใหม่ ( เอ็นดีบี ) ซึ่งถือเป็นสถาบันการเงินของกลุ่มบริคส์ด้วย
อย่างไรก็ตาม จากยอดเงินสนับสนุนดังกล่าว มีการตั้งข้อสังเกตว่าจำนวนน้อยกว่างบประมาณสนับสนุนโครงการเส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 หรือ One Belt, One Road (OBOR) ที่มีจำนวนสูงถึง 124,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 4 ล้านล้านบาท)
ประธานาธิบดีจีน กล่าวเปิดการประชุมก่อนหน้านี้ว่า ชาติในกลุ่มเศรษฐกิจบริคส์ ต้องร่วมมือกันส่งเสริมการค้าเสรีและระบบเศรษฐกิจที่เปิดกว้างและเอื้ออำนวย ให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันสร้างสรรค์ห่วงโซ่ทรงคุณค่าของโลกขึ้นมา เพื่อให้สามารถบรรลุถึงสภาวะทางเศรษฐกิจโลกซึ่งมีความสมดุลอย่างแท้จริง
โดยเขาเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ต่อพัฒนาการของชาติสมาชิกบริคส์ทั้งหมด แม้ว่าในระยะหลังหลายฝ่ายอ้างว่า อิทธิพลของบริคส์ลดน้อยถอยลงเพราะเศรษฐกิจของชาติสมาชิกแต่ละชาติชะลอตัวและย้ำว่าพัฒนาการของชาติเศรษฐกิจใหม่รวมถึงชาติกำลังพัฒนาทั้งหลาย ไม่ได้เป็นการพัฒนาไปเพื่อยื้อแย่งส่วนแบ่งของใคร แต่มีเป้าหมายต้องการทำให้องค์รวมทางเศรษฐกิจของโลกขยายตัวเพิ่มขึ้น เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ด้วยกัน
ผู้นำจีนกล่าวในตอนท้ายของสุนทรพจน์เปิดการประชุมว่า “จีนยังคงส่งเสริมให้กิจการวิสาหกิจต่างๆในประเทศเดินทางไปลงทุนในต่างแดน อย่างต่อเนื่องต่อไป แต่ในขณะเดียวกันก็ยินดีต้อนรับประเทศอื่นๆให้เดินทางเข้ามาลงทุนในจีนอย่างอบอุ่นด้วยเช่นกัน”
ทั้งนี้ ทางการจีนต้องการทำความตกลงจัดตั้งเขตการค้าเสรีระหว่างจีนกับเม็กซิโกขึ้น ในขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา เริ่มแสดงท่าทีเลิกล้มความตกลงเพื่อการจัดตั้งเขตการค้าเสรีแห่ง อเมริกาเหนือ (นาฟตา) ใหม่อีกครั้งระหว่างที่มีการเจรจาเพื่อปรับแก้เงื่อนไขของนาฟตาใหม่ในขณะนี้
สำหรับการประชุมบริคส์ในครั้งนี้ นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่า เป็นโอกาสล่าสุดของจีนในการแสดงบทบาทในฐานะหนึ่งในประเทศแถวหน้าด้านเศรษฐกิจ เพื่อเผชิญหน้ากับนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ