รายงานภายในของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ยอมรับว่ามีความล้มเหลวอย่างเป็นระบบของยูเอ็นในการรับมือกับสถานการณ์ในเมียนมา ก่อนหน้าการปราบปรามชาวโรฮีนจาของทหารเมียนมาในปี 2560 เนื่องจากไม่มีการรวมรวบยุทธศาสตร์ในการรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงขาดการสนับสนุนจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
เหตุปราบปรามดังกล่าวทำให้มีชาวโรฮีนจามากกว่า 730,000 คน เดินทางออกจากรัฐยะไข่หลบหนีความรุนแรงเข้าไปยังบังกลาเทศ โดยผลสอบสวนของยูเอ็นระบุว่าปฏิบัติการดังกล่าวมีความตั้งใจที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยมีการใช้ทั้งการสังหารหมู่ การข่มขืนหมู่ และการใช้ความรุนแรงอย่างแพร่หลาย
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ขณะที่เมียนมาปฏิเสธตลอดมาว่าไม่ได้ทำสิ่งใดผิด ทั้งยังระบุว่าปฏิบัติการของกองทัพเป็นการตอบโต้การโจมตีของกลุ่มติดอาวุธชาวโรฮีนจาเท่านั้น