การบ้านเศรษฐกิจ รับรัฐบาลใหม่อินเดีย

India's Prime Minister Narendra Modi speaks to the media after his meeting with President Ram Nath Kovind, to stake claim to form the new government at the Presidential Palace in New Delhi, India May 25, 2019. REUTERS/Altaf Hussain

คอลัมน์ ชีพจรเศรษฐกิจโลก

โดย ไพโรจน์ พงศ์พานิชย์

การเลือกตั้งอินเดียยุติลงด้วยผลที่เกินความคาดหมายโดยทั่วไป เพราะพรรคภราติยะชนตะ ของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ครองเสียงข้างมากได้สำเร็จ สะท้อนถึงการยอมรับที่ว่าการเปลี่ยนแปลงจำเป็นต้องได้รับแรงสนับสนุนจากการเมืองที่มีเสถียรภาพอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

หลังเลือกตั้งที่แม้จะมีความวุ่นวาย แต่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า ภายใต้การยอมรับของผู้มีสิทธิออกเสียงทำให้รัฐบาลโมดีมีเวลาเพียงพอต่อการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ หากต้องการให้อินเดียก้าวรุดหน้าต่อไปท่ามกลางสภาวะทางเศรษฐกิจโลก การบ้านของรัฐบาลโมดีในสายตาของนักเศรษฐศาสตร์มีอยู่มาก ตั้งแต่สาธารณูปโภค, การพัฒนาการเคหะสำหรับผู้มีรายได้น้อย จนถึงรองรับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี การศึกษา เรื่องสภาพแวดล้อม

นี่ยังไม่นับข้อเสนอแนะการปฏิรูปในเชิงการบริหารระบบตำรวจ และกระบวนการยุติธรรม การชำระกฎหมายให้ง่ายขึ้น สร้างแรงดึงดูดสำหรับนักลงทุน ซึ่งรัฐบาลอินเดียยังดำเนินการล่าช้า

ที่ผ่านมาอินเดียยังอยู่ในสภาพสวนทางกับชาติเศรษฐกิจใหม่อื่น ๆ เช่น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกอยู่ในระดับต่ำตามภาวะหลังวิกฤตเศรษฐกิจ สินเชื่อขยายตัวสูงในเขตเศรษฐกิจใหม่ทั้งหลาย ในอินเดียกลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม เพราะการขยายตัวของสินเชื่ออยู่ในระดับต่ำสุด ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงจัดอยู่ในกลุ่มที่มีอัตราสูงที่สุดของโลก

การลงทุนภาคเอกชนอยู่ในภาวะชะงักงันมานับตั้งแต่ปี 2011 อัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับสูงและทวีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปีนี้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี มาอยู่ที่ 5.8% ต่ำกว่าอัตราการเติบโตของจีนด้วยซ้ำไป ความผันผวนของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงได้ง่าย สะท้อนว่า การปฏิรูปโครงสร้างเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ ยังจำเป็นต้องมีนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่สมดุลด้วย

อย่างไรก็ตาม ระดับอัตราเงินเฟ้อในอินเดียยังคงอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ยังมีช่องว่างมากพอให้ใช้นโยบายทางการเงินด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยลงในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับมาตรการส่งเสริมให้บรรดาธนาคารปล่อยกู้ต่อภาคธุรกิจบางส่วนที่ยังขาดสภาพคล่องและยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินได้ การดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลดีต่อเนื่องให้กับเศรษฐกิจทั้งระบบ โดยที่หลายฝ่ายคาดว่ารัฐบาลใหม่ของอินเดียจะยังยึดมั่นในแนวทางการเพิ่มศักยภาพทางการคลัง เพื่อรักษาช่องว่างสำหรับการใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินไว้ต่อไป

สิ่งที่อินเดียจะต้องดำเนินการต่อเนื่องจากที่ผ่านมา คือ การชำระสะสางภาคการเงิน การธนาคาร การประกาศใช้มาตรการปรับโครงสร้างทางการเงินของธนาคาร (recapitalisation) อย่างทั่วถึง หลังจากที่มีการปฏิรูปข้อกำหนดกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการล้มละลายและธรรมาภิบาลในช่วงที่ผ่านมาจนเข้าที่เข้าทางแล้ว ในระยะยาวอินเดียจำเป็นต้องชำระสะสางข้อกำหนดกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับสถาบันการเงินต่าง ๆ ให้อยู่ในแนวทางเดียวกัน เพื่อให้สถาบันทางการเงินสามารถดำเนินกิจการในลักษณะที่หนุนเสริมซึ่งกันและกันได้ ไม่ใช่อยู่ในสภาพที่แข่งขันกันเองเหมือนเช่นที่เป็นอยู่

การปรับปรุงเชิงอุปทานให้ดีขึ้นจะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) มายังอินเดียได้มากขึ้นในฐานะเป็นแหล่งลงทุนทางเลือกในสภาวะสงครามการค้าเช่นในขณะนี้

ภารกิจเหล่านี้โดยเฉพาะในประเทศอย่างอินเดีย ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน แต่อย่างที่ว่าเวลานี้ “ต้นทุนทางการเมือง” ของรัฐบาลโมดีมีอยู่เหลือเฟือ มากพอที่จะทำให้รัฐบาลสามารถใช้สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ทำแล้วได้ผลเป็นพื้นฐานได้ ในขณะที่จัดการปรับปรุงแก้ไขสิ่งที่ไม่ได้ผลให้ได้ผลต่อไปในอนาคต