สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านการผ่านกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนของฮ่องกงจำนวนมาก ได้บุกยึดอาคารรัฐสภาของฮ่องกง ภายหลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามกดดันให้นางแคร์รี่ หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงลงจากตำแหน่ง
โดยกลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคนได้บุกยึดอาคารรัฐสภาเป็นเวลานานหลายชั่วโมง และได้ทุบทำลายประตูและกระจกของอาคาร รวมถึงรื้อค้นเอกสารทางราชการ รวมถึงแปะป้าย พ่นสีข้อความและสัญลักษณ์โจมตีรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่และนางแคร์รี่ หล่ำ จากนั้นผู้ชุมนุมได้ปะทะกับกองกำลังสลายฝูงชนของฮ่องกงภายนอกอาคาร โดยมีการใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตากับผู้ชุมนุม ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในท้ายที่สุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
ทั้งนี้วันที่ 1 ก.ค. ถือเป็นวันครบรอบการส่งมอบเกาะฮ่องกงภายใต้การบริหารปกครองสหราชอาณาจักร คืนให้กับรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ในปี 1997 โดยในทุกปีมักจะมีการชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลจีนยึดมั่นในการให้เสรีภาพแก่ฮ่องกงตามหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ”
และในปีนี้ซึ่งครบรอบ 22 ปีของการส่งมอบดังกล่าว ประกอบด้วยความไม่พอใจต่อการบริหารของนางแคร์รี่ หล่ำ ที่พยายามผลักดันร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนจากฮ่องกงไปเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในจีนแผ่นดินใหญ่ ที่อาจกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของชาวฮ่องกง ทำให้มีผู้ออกมาร่วมชุมนุมประท้วงเป็นจำนวนมาก ก่อนจะนำไปสู่การบุกยึดอาคารรัฐสภา
แม้ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารของฮ่องกงจะเลื่อนการอภิปรายพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่กลุ่มผู้ชุมนุมต้องการให้มีการถอนร่างกฎหมายนี้ออกจากการพิจารณาเป็นการถาวร รวมถึงกดดันให้นางแคร์รี่ หล่ำลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดด้วย
ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว นางแคร์รี่ หล่ำได้แถลงการณ์ประณามการชุมนุมด้วยความรุนแรง พร้อมทั้งระบุว่าจำเป็นต้องมีการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ชุมนุมที่กระทำผิดเท่าที่จำเป็น
ทั้งนี้ในวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายเจเรมี ฮันต์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหราชอาณาจักรได้ออกมาระบุว่า ฮ่องกงจะต้องรักษาอิสรภาพเอาไว้ให้ได้ ก่อนที่รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่จะตอบโต้ในวันที่ 1 ก.ค. ว่า “สหราชอาณาจักรไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาณานิคมของตนในอดีตแล้ว และควรจะต้องหยุดแทรกแซงกิจการภายในของจีน”
“เราได้เห็นสองภาพที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ภาพหนึ่งเป็นภาพการชุมนุมอย่างสันติและมีเหตุผล แต่อีกภาพหนึ่งกลับเป็นภาพที่น่าตระหนกและเป็นการละเมิดกฎหมาย” แคร์รี่ หล่ำ กล่าวในแถลงการณ์เช้าวันที่ 2 ก.ค. พร้อมทั้งระบุด้วยว่า “ในฮ่องกงไม่มีสิ่งใดที่สำคัญไปกว่าหลักนิติธรรม”