พญามังกรอ่อนแรง!? สงครามการค้าทำเศรษฐกิจจีนโตต่ำสุดในรอบ 27ปี

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ลดลงต่ำสุดในรอบ 27 ปี เนื่องจากสงครามการค้ากับสหรัฐอเมริกา โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ของจีนที่เติบโต 6.2% ในไตรมาส 2 ปีนี้ นับว่าเป็นการเติบโตต่ำที่สุดนับแต่ปี 1992 และลดลงจากไตรมาสแรกที่เติบโต 6.4% ตามการเปิดเผยของสำนักสถิติแห่งชาติของจีนในวันที่ 15 ก.ค. 2019

ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนยังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของจีนจะต้องเผชิญกับ “แรงกดดัน” ต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยระบุว่า “เศรษฐกิจจีนยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ซับซ้อนและรุนแรง ขณะที่การเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวและความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกเพิ่มสูงขึ้น”

แม้ว่า รัฐบาลสหรัฐและจีนตกลงที่จะ “พักรบ” ในสงครามการค้าชั่วคราว หลังจากที่ตอบโต้กันมาเป็นเวลาหลายเดือน แต่นักวิเคราะห์ยังคงมีคำถามว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้จริงหรือไม่

ทอม ราฟเฟอร์ตี (Tom Rafferty) นักเศรษฐศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจจีนของ The Economist Intelligence Unit ระบุว่า “ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสงครามการค้าเป็นองค์ประกอบสำคัญซึ่งเราคิดว่ายังคงมีอยู่ ภาคธุรกิจยังคงสงสัยว่า ทั้งสองประเทศจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้หรือไม่ หรือความตึงเครียดทางการค้าอาจจะเพิ่มขึ้น”


นักวิเคราะห์ยังคาดว่า จีนอาจจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา ซึ่งอาจเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางของจีนก็เป็นได้ ภายหลังจากที่ธนาคารกลางของสหรัฐเพิ่งส่งสัญญาณในการปรับลดดอกเบี้ยภายในสิ้นเดือน ก.ค.นี้