เลือกตั้งเยอรมนี 2017 ชี้ชะตา “แมร์เคิล” สมัยที่ 4 ?

AFP PHOTO / John MACDOUGALL

วันที่ 24 กันยายนนี้ จะเป็นวันที่พี่ใหญ่แห่งอียู อย่างเยอรมนี จะตัดสินชี้ชะตาประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้ ถือเป็นเดิมพันครั้งสำคัญของประเทศอุตสาหกรรมหนักแห่งนี้ เพราะในช่วงเวลาที่กระแสโลกยังไม่เสถียรนัก ชาวเยอรมันจะต้องเลือก “ประมุขฝ่ายบริหาร” ให้ถูกคน ไม่เช่นนั้นอาจเข้าตำราว่า “เลือกคนผิด คิดจนตัวตาย”

“แองเกลา แมร์เคิล” วัย 63 ปี ดอกไม้เหล็ก 3 สมัยแห่งเยอรมนี นำพรรคอนุรักษนิยม ลงชิงชัยตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 4 มีคู่แข่งคนสำคัญอย่าง “มาร์ทิน ชูลส์” วัย 61 จากพรรคเอสพีดี ผลโพลล่าสุดชี้ว่า แมร์เคิลยังมีคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งคนสำคัญอยู่มาก

ชูลส์ เคยดำรงตำแหน่งประธานสภายุโรป แต่ไม่เคยลงสนามเลือกตั้งในประเทศ นี่จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยการตัดสินใจหลักของประชาชนและการดีเบตที่ถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์ทั่วประเทศเมื่อคืนวันอาทิตย์ ก็เพิ่มความมั่นใจให้แมร์เคิลขึ้นไปอีก

ผลโพลอินฟราเทสระบุว่า ระหว่างการดีเบต ชูลส์ แสดงท่าทีก้าวร้าวมากถึง 78 ครั้ง และมีข้อโต้เถียงที่ดีกว่า 36 ครั้ง ขณะที่แมร์เคิลแสดงท่าทีก้าวร้าว 6 ครั้ง และมีข้อโต้เถียงที่ดีกว่า 44 ครั้ง ประชาชนต่างลงความเห็นพ้องว่าแมร์เคิลชนะในการดีเบตยกนี้ถึง 55% ด้านชูลส์ 35%

การดีเบตเกิดขึ้นบน 3 หัวข้อใหญ่ คือ นโยบายผู้อพยพ ความพยายามเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรปของตุรกี และความมั่นคงภายในประเทศ

มาร์ทิน ชูลส์ – AFP PHOTO / Christof STACHE

ปกติแมร์เคิลเป็นคนที่พูดไม่เก่ง และไม่โดดเด่นในด้านการดีเบตเท่าไหร่ มีคาดการณ์ว่าชูลส์ทจะทำได้ดีกว่า แต่ผลการดีเบตก็ผิดไปจากคาดกลับเป็นชูลส์เองที่หลุดประเด็นไปหลายที เช่น การที่เขาโจมตีนโยบายการรับผู้อพยพของแมร์เคิล ทั้งที่สมัยดำรงตำแหน่งประธานอียู เขาเองเป็นคนที่พูดสนับสนุนให้ประเทศยุโรปมีความเชื่อว่า “การเปิดรับผู้อพยพจะนำมาซึ่งคุณค่าที่มากกว่าทองคำ”

อย่างไรก็ตาม ชูลส์และแมร์เคิลเห็นพ้องกันในประเด็นที่ว่า “ไม่ควรรับตุรกี” เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป เนื่องจากผู้นำประเทศตุรกีละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศด้วยการทำรัฐประหาร

แม้ว่าหลายฝ่ายจะเชื่อว่า แมร์เคิลจะได้เก้าอี้สมัยที่ 4 ไปครอง แต่เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานอ้างผลโพลสัปดาห์ที่แล้วว่า 46% ของประชาชนเยอรมัน ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใครเป็นผู้นำคนถัดไป เพราะแม้ว่าคนมากมายจะเชื่อมั่นในฝีมือการบริหารของแมร์เคิล แต่มีคนที่ไม่ยอมรับเธอเยอะขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะจากการเปิดรับผู้อพยพจากตะวันออกกลางเกือบ 1 ล้านคน เมื่อ 2 ปีก่อน

นอกจากนี้โพลยังคาดการณ์ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่มีพรรคใดได้รับเสียงข้างมากในสภาแน่นอน และอาจเป็นครั้งแรกที่จะมีพรรคได้รับเลือกตั้งเข้าสภา 6 พรรคด้วยกัน เป็นงานหนักของแมร์เคิลในการหาพันธมิตร หากได้รับเลือกตั้งสมัยที่ 4