ADB ชี้ “เอเชีย-แปซิฟิก” ศก.โตมั่นคงท่ามกลางสงครามทางการค้าโลกยังเดือด

REUTERS/Damir Sagolj/File Photo

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ได้เผยแพร่รายงานการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย (Asian Development Outlook: ADO) ฉบับเพิ่มเติมในวันนี้ (18 ก.ค.) ระบุว่า ประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียยังคงแข็งแกร่งแม้ว่าการเติบโตจะชะลอตัวลงในช่วงปี 2019-2020 เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศยังเป็นแรงสนับสนุนที่ดีสวนทางกับสภาพความตึงเครียดทางการค้า

นอกจากนี้ ได้คาดการณ์ว่าการเติบโตของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจะอยู่ที่ 5.7% ในปี 2019 และ 5.6% ในปี 2020  ซึ่งเท่ากับที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา อัตราการเติบโตเหล่านี้ลดลงเล็กน้อยจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 5.9% ในปี 2018

หากไม่รวมเศรษฐกิจอุตสาหกรรมใหม่ของเอเชีย (ฮ่องกง เกาหลี สิงคโปร์ และไทเป) แนวโน้มการเติบโตของภูมิภาคถูกปรับลดลงจาก 6.2% เป็น 6.1% ในปี 2019 และจะยังคงอัตราเดิมไว้ในปี 2020

ความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงมากที่สุดซึ่งส่งผลกระทบต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจ ถึงแม้จะมีการหยุดพักในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อันนำไปสู่การเจรจาการค้าระหว่างทั้งสองประเทศอีกครั้ง

นายยาซูยูกิ ซาวาดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอดีบี กล่าวว่า “แม้ความขัดแย้งทางการค้าจะยังคงดำเนินต่อไป ภูมิภาคเอเชียยังคงแข็งแกร่ง และสามารถรักษาระดับการเติบโตในระดับปานกลางได้ แต่หากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสองชาติมหาอำนาจยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ความไม่แน่นอนดังกล่าวจะยังคงส่งผลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคต่อไป”

รายงานของ ADO ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเอเชียตะวันออกลงอยู่ที่ 5.6% ในปี 2019 เนื่องจากเศรษฐกิจของเกาหลีใต้เติบโตช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ และยังคงแนวโน้มการเติบโตของอนุภูมิภาคไว้ที่ 5.5% ในปี 2020 ซึ่งเท่ากับที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

สำหรับจีน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของอนุภูมิภาค คาดว่าจะเติบโตได้ตามที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 6.3% ในปี 2019 และ 6.1% ในปี 2020 เนื่องจากการสนับสนุนนโยบายเพื่อชดเชยอุปสงค์ภายในประเทศและต่างประเทศที่เบาบางลง

ส่วนเศรษฐกิจของ “เอเชียใต้” เติบโตได้ดี โดยคาดว่าจะเติบโตที่ 6.6% ในปี 2019 และ 6.7% ในปี  2020 แต่อยู่ในระดับต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนเมษายน ส่วนแนวโน้มการเติบโตของอินเดียถูกปรับลดลงอยู่ที่ 7.0% ในปี 2019 และ 7.2% ในปี 2020 เนื่องจากภาวะการคลังตกต่ำของอินเดียในปี 2018

ADO ได้ปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ลงเล็กน้อยอยู่ที่ 4.8% ในปี 2019 และ 4.9% ในปี 2020 จากสาเหตุการค้าที่หยุดชะงักและการชะลอตัวของวงจรการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

สำหรับเศรษฐกิจของ “ไทย” ซึ่งได้ชะลอตัวลงจาก 3.6% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2018 มาอยู่ที่ 2.8% ของไตรมาสแรกในปี 2019 การค้าโลกที่อ่อนแอทำให้การส่งออกในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ หดตัวอยู่ที่ 4.5% ส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันการบริโภคของภาคเอกชน การลงทุน และการใช้จ่ายภาครัฐ ยังคงสนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเติบโตด้านรายได้อย่างยั่งยืน การว่างงานในระดับที่ต่ำ และราคาสินค้าอยู่ในระดับคงที่เป็นปัจจัยขับเคลื่อนการใช้จ่ายภาคเอกชนต่อไป

ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวลงที่ 3.5% ในปี 2019 เป็นผลจากการเติบต่ำกว่าที่คาดไว้ในไตรมาสแรก โดยเฉพาะการส่งออกที่ลดลงอย่างหนัก โดยค่าเงินบาทที่แข็งตัวเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออกของไทยมากยิ่งขึ้น ส่วนเศรษฐกิจไทยในปี 2020 คาดว่าจะเติบโตที่ 3.6%

“เอเชียกลาง” ADO ระบุว่า มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 4.3% ในปี 2019 โดยสาเหตุหลักมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของประเทศคาซัคสถาน ส่วนในปี 2020 แนวโน้มเศรษฐกิจของเอเชียกลางยังคงเดิมจากที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยอยู่ที่ 4.2%

ส่วนเศรษฐกิจของแปซิฟิก คาดว่าจะเติบโตเท่าเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 3.5% ในปี 2019 และ 3.2% ในปี 2020 เนื่องจากเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคกระเตื้องขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลกระทบโซโคลนจิต้าและแผ่นดินไหวในปาปัวนิวกินี ซึ่งเป็นเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในอนุภูมิภาค

ADO ได้ปรับการคาดกาณ์การเติบโตของประเทศเศรษฐกิจอุตสาหกรรมหลักเล็กน้อย โดยปรับขึ้นการเติบโตของสหรัฐอยู่ที่ 2.6% ในปี 2019 และปรับลดการเติบโตของสหภาพยุโรป (อียู) อยู่ที่ 1.3% ส่วนญี่ปุ่น คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจยังคงเติบโตเท่าเดิมที่ 0.8% ในปี 2019 และ 0.6% ในปีหน้า

ทั้งนี้ “เงินเฟ้อ” ของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นจาก 2.5% เป็น 2.6% ในปี 2019 และ 2020 ตามลำดับ เนื่องมาจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นและปัจจัยภายในอีกหลายประการ เช่น การระบาดของโรคไข้หวัดแอฟริกันในหลายประเทศของเอเชีย ซึ่งคาดว่าจะทำให้ราคาเนื้อหมูของจีนปรับตัวสูงขึ้น