รอยเตอร์ส รายงานว่า “ฟิทช์ เรทติ้งส์” ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทโบอิ้ง จากเดิมอยู่ที่ “stable” ปรับลงสู่ “negative” โดยระบุถึงสาเหตุจากความไม่แน่นอนต่อกำหนดเวลาที่หน่วยงานควบคุมกฎระเบียบจะอนุมัติให้เครื่องบิน 737 แม็กซ์ สามารถกลับมาให้บริการได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ ส่งผลต่อราคาหุ้นโบอิ้งร่วงลง 1% แตะระดับที่ 373.42 ดอลลารสหรัฐ เมื่อวานนี้ (22 ก.ค. 62)
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ก่อนหน้านี้ เกิดเหตุโศกนาฏกรรมซึ่งสาเหตุมาจากความผิดพลาดของระบบเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737 แมกซ์ อย่างเช่นในกรณีของ “เอธิโอเปียแอร์ไลน์” เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ที่เกิดอุบัติเหตุดิ่งสู่พื้นโลก ในขณะที่เดินทางออกจากกรุงแอดดิสอาบาบา มุ่งหน้าสู่ กรุงไนโรบีของประเทศเคนยา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตยกลำทั้งหมด 157 ราย และก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2018 ที่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายลักษณะเดียวกันกับ “ไลออนแอร์” สายการบินของอินโดนีเซีย ดิ่งลงทะเลชวาหลังเทกออฟเครื่องจากสนามบินในกรุงจาการ์ตาได้เพียง 13 นาที คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือรวม 189 ราย
ทั้งนี้ ฟิทช์ ระบุว่า เครื่องบิน 737 แมกซ์ ยังคงสร้างความวิตกกังวลต่ออุตสาหกรรมการบินไปจนถึงปี 2020 และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของโบอิ้งต่อไปอีกหลายปีในเรื่องภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นต่อผู้โดยสาร แม้ว่าเครื่องบินรุ่นดังกล่าวจะได้รับไฟเขียวอนุญาตให้กลับมาให้บริการได้อีกครั้ง
นอกจากนี้ รายงานของฟิทช์ ได้เตือนถึงโบอิ้งด้วยว่า บริษัทโบอิ้งจะมีหนี้สินเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากที่เปิดเผย ณ วันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ชี้ว่าโบอิ้งมีหนี้สินรวม 14,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปีนี้ หนี้สินรวมจะเพิ่มแตะระดับที่เกือบ 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
