เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา “กัง กยอง ฮวา” รัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีใต้ ได้เปิดเผยว่า “เกาหลีใต้” เตรียมที่จะรับมือกับ “ญี่ปุ่น” หากรัฐบาลโตเกียวตัดสินใจถอดเกาหลีใต้ออกจากรายชื่อ “สีขาว” อันหมายถึงประเทศคู้ค้าที่ไว้ใจได้ และมีการจำกัดทางการค้าน้อยที่สุด โดยทางการญี่ปุ่นจะประกาศการตัดสินใจดังกล่าวนี้ภายในวันนี้ (2 ส.ค.)
ทั้งนี้ นางกัง ระบุด้วยว่า หากญี่ปุ่นตัดสินใจถอดรายชื่อออกตามที่สื่อในญี่ปุ่นรายงาน ก็คาดว่าญี่ปุ่นจะเริ่มดำเนินการบังคับใช้ได้จริงๆ ภายในปลายเดือนส.ค.นี้
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ขณะที่ บีบีซี รายงานวันนี้ (2 ส.ค.) ระบุว่า การตัดสินใจของญี่ปุ่นครั้งนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเลวร้ายมากขึ้น อาจจะถึงระดับที่ไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป ขณะเดียวกัน หากญี่ปุ่นถอดรายชื่อเกาหลีใต้ออกจาก “บัญชีสีขาว” จะส่งผลต่อเนื่องทำให้เกิดข้อจำกัดทางการค้าครั้งใหม่ระหว่างกัน
ล่าสุด ทางการกรุงโซลแสดงความเห็นต่อการตัดสินใจของญี่ปุ่นสั้นๆ เพียงว่า “หากญี่ปุ่นทำเราก็จะทำ ตอบสนองการค้าที่ไม่เป็นธรรมเช่นกัน”
สองประเทศเพื่อนบ้าน “ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้” เคยขัดแย้งกันอยู่หลายครั้ง สืบเนื่องจากการกระทำของญี่ปุ่น โดยความสัมพันธ์เข้าข่ายแตกหักอีกครั้ง หลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นโต้ว่า การจ่ายเงินชดเชยให้กับแรงงานเกาหลีที่ถูกใช้งานอย่างหนัก ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้สิ้นสุดไปแล้ว โดยญี่ปุ่นอ้างว่าเคยจ่ายให้แล้วมากกว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อันส่งผลต่อเนื่องให้ชาวเกาหลีใต้ไม่พอใจ จนเกิดกระแสในโลกโซเชียลให้ “แบน” สินค้าญี่ปุ่นหลายประเภท ตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องสำอาง รถหรู ไปจนถึงเดินทางไปท่องเที่ยว ขณะที่ รัฐบาลเกาหลีใต้เองก็โต้ตอบญี่ปุ่นเช่นกันว่า เงินชดเชยที่ได้รับก่อนหน้านั้นเป็นข้อตกลงที่ไม่ได้เยียวยาประชาชนให้ครอบคลุมพอ
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา “โก มิง จอง” โฆษกของรัฐบาล กล่าวว่า ขณะนี้ทางการกรุงโซลกำลังไตร่ตรองการตอบสนองต่อการตัดสินใจนี้ ซึ่งรัฐบาลโซลต้องตอบโต้อย่างเร็วที่สุดแน่นอน ส่วนความบาดหมางระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ จะแย่ลงเรื่อยๆ จนกว่ารัฐบาลทั้ง 2 ใยจะยอมหารือเพื่อตกลงกันอีกครั้ง
