สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกากำลังพิจารณาชะลอการออกใบอนุญาตให้บริษัทเอกชนของสหรัฐทำธุรกิจร่วมกับ “หัวเว่ย” บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน หลังจากที่ “สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ” ตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง จากที่สหรัฐประกาศเตรียมขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และจีนโต้กลับด้วยการยกเลิกการซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐ ท่ามกลางความกังวลเรื่องความไร้เสถียรภาพของค่าเงินหยวนของจีน ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุด “ช่วงพักรบ” ของทั้งฝ่ายนับแต่การพบกันระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศในเวทีการประชุมสุดยอดผู้นำจี 20 เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อมาตรการชะลอการออกใบอนุญาตดังกล่าว แม้ว่า “วิลเบอร์ รอสส์” (Wilbur Ross) รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐจะระบุก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะเริ่มพิจารณาออกใบอนุญาตกว่า 50 รายการแก่บริษัทเอกชนที่ยื่นขออนุญาตทำธุรกิจกับหัวเว่ยในสัปดาห์นี้
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
ทั้งนี้ หัวเว่ยกลายเป็นส่วนหนึ่งของสงครามการค้า หลังจากที่ถูกขึ้นบัญชีดำโดยสหรัฐ ซึ่งห้ามบริษัทเอกชนอเมริกันทำธุรกิจร่วมกับหัวเว่ยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางการ มาตรการดังกล่าวกระทบต่อยอดขายของบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งที่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ให้กับหัวเว่ย ทำให้มีการยื่นขอใบอนุญาตเพื่อทำธุรกิจต่อไปได้
นอกจากนี้ ตามรายงานของซีเอ็นบีซีระบุว่า เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐตัดสินใจออกกฎห้ามหน่วยราชการของสหรัฐจัดซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และบริการโทรคมนาคมที่เกี่ยวข้องกับบริษัทหัวเว่ยเพิ่มเติมอีกด้วย
