ในวันนี้ 16 ส.ค.62 งานสัมมนา 44 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน : โลกผันแปรแต่มิตรภาพยั่งยืน ณ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค กรุงเทพฯ
นางหยาง หยาง ที่ปรึกษาฝ่ายการเมือง สถานเอกอัคราชทูตจีน ประจำประเทศไทย ให้เกียรติกล่าวปาฐกถาพิเศษ “มองอนาคตความสัมพันธ์ไทย-จีน และความคาดหวังต่อบทบาทของสื่อจีนและไทย”
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
โดยนางหยาง กล่าวว่า หากมองย้อนไปถึงความสัมพันธ์จีน-ไทยในอดีตกาล อันที่จริงนั้นเรามีความสัมพันธ์มายาวนานมากถึง 2,000 ปีแล้ว ซึ่งพูดได้ว่าเรามีความแน่นแฟ้นกันในทุกๆ ด้าน ทั้งการเมือง การค้า เศรษฐกิจ เรามีความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันอย่างมาก
ทั้งนี้ นางหยางกล่าวด้วยว่า รัฐบาลจีนยังยึดมั่นในหลักการ ” Win-Win” คืิอ ทั้งฝ่ายชนะหรือได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ ในนโยบาย “เส้นทางสายไหมใหม่” (One Belt One Road) ซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้ความสำคัญอย่างมากในนโยบายการเชื่อมโลกนี้
ขณะที่ จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 1 ของไทยมา 6 ปีติดต่อกัน ส่วนไทยเองก็เป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ในอาเซียนของจีน ขณะเดียวกัน มีนักศึกษาจีนที่เข้าเรียนในไทยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยปัจจุบันมีจำนวนราว 40,000 คน ส่วนคนไทยที่ไปเรียนในจีนมีอยู่ประมาณ 30,000 คน
นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวในปี 2018 จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเยือนไทยมีมากกว่า 10 ล้านคนแล้ว ส่วนคนไทยไปเยือนจีนราว 8 แสนคน ซึ่งคาดว่าในอนาคตความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันจะพัฒนาทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
นางหยาง ได้กล่าวถึงบทบาทของสื่อมวลชน ว่าเราพยายามที่จะเพิ่มบทบาทของสื่อ มีการแลกเปลี่ยนระหว่างจีนและไทยมากขึ้น โดยเชื่อว่า สื่อมีความสำคัญช่วยให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศแน่นแฟ้นขึ้น อย่างน้อยก็เพิ่มความเข้าใจในภาคประชาชน สังคม วัฒนธรรม ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมสื่อของจีนก็มีความเปลี่ยนแปลงมากขึ้น เริ่มให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
“ภายใต้สภาพแวดล้อมใหม่ และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จีนและไทย สามารถก้าวหน้า สร้างสมดุล และมุ่งความยั่งยืน ได้ง่ายฉันท์พี่น้องที่ผ่านความยากลำบากมาด้วยกัน” นางหยาง หยาง ระบุ