ความไม่แน่นอน “เบร็กซิต” ทุบอสังหาฯอังกฤษดิ่งยาว

กระบวนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ของสหราชอาณาจักร หรือ “เบร็กซิต” ที่ยังไม่มีความแน่นอน กำลังส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจเป็นวงกว้าง รวมถึงในภาคธุรกิจ “อสังหาริมทรัพย์” ที่ส่งผลให้เกิดภาวะการชะลอตัว และราคาที่พักอาศัยลดลงอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ล่าสุดนายกรัฐมนตรี “บอริส จอห์นสัน” ของอังกฤษเผชิญแรงกดดันจากสภาผู้แทนราษฎรให้ต้องขอเลื่อนกำหนดการถอนตัวจากอียู จากเดิมวันที่ 31 ต.ค. 2019 เป็น 31 ม.ค. 2020 แต่นายกฯจอห์นสันยังคงยืนยันที่จะผลักดันเบร็กซิตให้สำเร็จในเดือน ต.ค. แม้ว่าเป็นการออกจากอียูแบบไม่มีข้อตกลง (โนดีลเบร็กซิต) ก็ตาม

สถานการณ์ความไม่แน่นอนดังกล่าวส่งผลให้ธุรกิจอสังหาฯในอังกฤษอาจต้องเผชิญกับภาวะชะลอตัวต่อเนื่องยาวนาน เนื่องจากลูกค้าในอังกฤษต่างไม่กล้าเสี่ยงที่จะซื้อหรือลงทุนในที่พักอาศัย ส่งผลให้ราคาที่พักอาศัยในหลายพื้นที่ถูกลง

บีบีซีรายงานว่า “เคพีเอ็มจี” บริษัทตรวจสอบบัญชีระดับโลกของเนเธอร์แลนด์ คาดการณ์ว่า หากเกิดโนดีลเบร็กซิตราคาที่พักอาศัยในทั่วทั้งสหราชอาณาจักรจะลดลงอีก 6.2% ในปีหน้า และคาดว่าราคาที่พักในกรุงลอนดอนจะลดลง 7%

แต่หากอังกฤษสามารถบรรลุข้อตกลงกับอียูได้ภายในเดือน ต.ค. ที่จะถึงนี้ เคพีเอ็มจีคาดการณ์ว่า ราคาที่พักอาศัยในยูเคจะเพิ่มขึ้นราว 1.3% แต่อย่างไรก็ตาม ราคาที่พักบ้านอาศัยในกรุงลอนดอนจะยังลดลงในปีนี้ราว 4.7% แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ในอังกฤษจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

ขณะที่รอยเตอร์สรายงานอ้างข้อมูลของสถาบันอาร์ไอซีเอส (The Royal Institution of Chartered Surveyors) ที่ได้สำรวจธุรกิจจัดการทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษ ระบุว่า ความไม่ชัดเจนของเบร็กซิตส่งผลให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษลดลง ขณะที่ยอดขายติดลบต่อเนื่องจากเดือนสิงหาคม ยอดขายลดลง -4% และอาร์ไอซีเอสประเมินว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้าอาจจะลดลงถึง -23% รวมทั้งคาดว่าราคาอสังหาฯทั่วยูเคในระยะ 3 เดือนข้างหน้าจะติดลบถึง -24% จากเดือนสิงหาคมที่ติดลบ -13%

“ไซมอน โรบินสัน” หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของอาร์ไอซีเอส กล่าวว่า “เป็นการยากที่ตลาดอสังหาฯจะหลีกเลี่ยงผลกระทบจากเบร็กซิตที่ยืดเยื้อ ความไม่แน่นอนยังส่งผลเชิงลบต่อความเชื่อมั่น” โดยยอดขายอสังหาฯในลอนดอนเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาลดลงอย่างมาก ขณะที่ยอดขายในสกอตแลนด์ ไอร์แลนด์เหนือ และเวลส์ ยังคงที่

ขณะที่ หน่วยงานเฮชเอ็มอาร์ซี (HM Revenue and Customs) ของอังกฤษ เปิดเผยข้อมูลการทำธุรกรรมเกี่ยวกับที่พักอาศัยในอังกฤษว่า ยอดการซื้อขายบ้านในปีนี้ลดลงถึง 12% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นับเป็นสัญญาณถึงความกังวลต่อความผันผวนของเบร็กซิต

รายงานข่าวระบุว่า ธุรกิจอสังหาฯของอังกฤษได้ชะลอตัวมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่พักอาศัยเริ่มราคาลดลง นับตั้งแต่มีการลงประชามติเบร็กซิตในเดือน มิ.ย. 2016 ประกอบกับอัตราภาษีการซื้อขายอสังหาฯสูงขึ้น โดยเฉพาะอสังหาฯที่มีมูลค่า 1 ล้านปอนด์ขึ้นไป ต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงขึ้นจึงยิ่งซ้ำเติมตลาด และความกังวลต่อผลกระทบของเบร็กซิตต่อภาคอุตสาหกรรมการเงินที่ทำให้มีการย้ายฐานออกจากอังกฤษ รวมถึงเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงอย่างรุนแรง

ทั้งหมดเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดอสังหาฯในอังกฤษซบเซาอย่างมาก และมีแนวโน้มจะชะลอตัวต่อไปในระยะยาว