งานงอก! ศาลสูงสุดอังกฤษสั่ง “โมฆะ” แผนเลื่อนปิดสภาชี้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย

Frank Augstein/Pool via REUTERS

ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ในวันนี้ (24 ก.ย.) ศาลศาลฎีกาซึ่งศาลสูงสุดแห่งสหราชอาณาจักร (ยูเค) มีคำพิพากษาชี้ขาดว่า การที่นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษ ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และถวายคำแนะให้พระองค์พระราชทานพระบรมราชานุญาตเลื่อนสมัยประชุมสภาออกไปเป็นเวลาอย่างน้อย 5 สัปดาห์ (ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. ไปจนถึงวันที่ 14 ต.ค.2019) ถือว่ามีความผิดในทางกฎหมาย และศาลขอสั่งให้เป็น “โมฆะ”

ทั้งนี้ การเลื่อนพักประชุมสภาครั้งใหม่ซึ่งเป็นแผนของนายกฯ จอหน์สัน ก็เพื่อต้องการสกัดกั้นการหารือในประเด็น “เบร็กซิท” หรือการถอดถอนเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (อียู) ให้ไม่ทันกำหนด ในวันที่ 31 ต.ค.ที่จะถึงนี้

ในถ้อยคำแถลงของ “เลดี เฮล” ประธานศาลสูงสุดของอังกฤษ ได้ระบุว่า “การเลื่อนสมัยประชุมถือเป็นเรื่องผิด เพราะเป็นการพยายามหยุดยั้งไม่ให้สภาผู้แทนราษฎรสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งในกรณีนี้จะทำให้เกิดผลกระทบอย่างสุดโต่งต่อหลักพื้นฐานของประชาธิปไตยของเรา”

รายงานระบุว่า นายบอริส จอห์นสัน ซึ่งขณะนี้กำลังเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกที่นครนิวยอร์ก ยังไม่มีคำพูดใดๆ ที่ชัดเจนออกจากดนายกรัฐมนตรีของอังกฤษรายนี้

นอกจากนี้ นายไนเจล ฟาราจ หัวหน้าพรรคเบร็กซิท แสดงความคิดเห็นว่า แผนการระงับการเปิดประชุมสภาสมัยใหม่ของนายจอห์นสัน นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ “เลวร้ายที่สุด” ที่เกิดขึ้นกับการเมืองของอังกฤษ อย่างไรก็ตาม เขากลับมุ่งประเด็นการเรียกร้องให้ “โดมินิก คัมมิงส์” ในฐานะผู้ให้คำปรึกษาของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับแผนเบร็กซิทว่า “ควรลาออก”

อย่างไรก็ตาม “เจเรมี คอร์บิน” หัวหน้าพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านรัฐบาล กล่าวในระหว่างการประชุมพรรคที่เมืองไบรตันของอังกฤษ ย้ำว่าการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน เพื่อปิดรัฐสภาเป็นการแสดงให้เห็นถึง “การดูถูกประชาธิปไตยและการใช้อำนาจในทางที่ผิด”

พร้อมทั้งกล่าวว่า เขาจะติดต่อกับประธานสภาทันทีหลังจากนี้ เพื่อเรียกร้องให้นายจอนห์นสันเชื่อฟังและเคารพกฏหมาย และต้องบังคับให้ผู้นำเจรจาเพื่อขยายเวลาการเบร็กซิทออกไป หากไม่สามารถทำข้อตกลงกับอียูอีกครั้งได้

อย่างไรก็ตาม “จอห์น เบอร์โคว์” โฆษกของสภาสามัญชน แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ผมเรียกร้องให้รัฐสภาปังกฤษสมัยประชุมครั้งใหม่เปิดการประชุมในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ย.) คาดว่าเวลา 11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นและเขากล่าวยินดีสำหรับการตัดสินของศาลฎีกา

REUTERS/Henry Nicholls