“สหรัฐ” จ่อขึ้นภาษี “ยุโรป” 7.5 พันล้าน มีผล 18 ต.ค.นี้

Frederic J. BROWN / AFP

บีบีซีรายงานว่า “สหรัฐอเมริกา” เตรียมเก็บภาษีสินค้านำเข้าจาก “ยุโรป” มูลค่า 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 18 ต.ค.นี้ หลังจาก “องค์การการค้าโลก” (WTO) เห็นชอบเช้าวันนี้ (3 ต.ค.) นับเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการตอบโต้ยุโรปที่สหรัฐกล่าวหาว่า ให้การสนับสนุนแก่ “แอร์บัส” บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของยุโรป ขณะเดียวกัน สหรัฐก็ถูกกล่าวาว่าให้การสนับสนุน “โบอิ้ง” บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐด้วยเช่นกัน นำมาซึ่งความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและยุโรปมาเป็นเวลานานถึง 15 ปี

ทั้งนี้ สินค้านำเข้าจากยุโรปที่จะได้รับผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีครั้งนี้คือ สินค้าในกลุ่มอาหารและเสื้อผ้าหลายประเภทในอัตรา 25% อย่างเช่น เสื้อขนสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนม เนื้อหมู สินค้าเกษตร วิสกี้ กาแฟ หนังสือ และเครื่องจักร ขณะที่เครื่องบินนำเข้าจะถูกเรียกเก็บในอัตรา 10%

ก่อนหน้านี้ สหรัฐได้ยื่นเรื่องต่อ WTO ครั้งแรกในปี 2004 โดยร้องเรียนว่า การกู้ยืมเงินของแอร์บัสในยุโรปนั้นเป็นการได้รับการอุดหนุนจากรัฐอย่างผิกกฎหมาย ซึ่งต่อมาสหรัฐได้พยายามปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากอียูมูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จนกระทั่ง WTO เห้นชอบให้สามารถจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรปมูลค่า 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้


ล่าสุด สหภาพยุโรป (อียู) ขู่จะตอบโต้กลับ ขณะที่โฆษกกระทรวงการค้าต่างประเทศของสหราชอาณาจักร (ยูเค) ระบุว่า “ยูเคกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกา อียูและพันธมิตร เพื่อบรรลุการเจรจาหาทางออกจากข้อพิพาทของแอร์บัสและโบอิ้ง ยูเคในนามของอียูกำลังยื่นเรื่องไปยัง WTO เพื่อชี้แจงว่า เราได้ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของ WTO เกี่ยวกับประเด็นการให้การสนับสนุนแอร์บัสอย่างครบถ้วน และไม่สมควรที่จะถูกปรับขึ้นภาษี”