“อูเบอร์” เลิกจ้างรอบสุดท้าย ปลดพนักงานกว่า 350 คน

REUTERS/Brendan McDermid

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า “อูเบอร์” (Uber) ได้เลิกจ้างพนักงานในหลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายอูเบอร์อีทส์ (Uber Eats) ฝ่ายประสิทธิภาพการตลาด กลุ่มเทคโนโลยีขั้นสูง ฝ่ายบุคคลและพนักงานขับ และฝ่ายพัฒนาแพลตฟอร์ม ซึ่งรวมแล้วมากกว่า 350 คน มีผลในวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา นับเป็นการเลิกจ้างพนักงานรอบที่ 3 ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของ “แผนการปรับลดจำนวนพนักงาน” ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นอกจากการเลิกจ้างแล้ว ยังมีพนักงานบางส่วนที่ถูกโยกย้ายไปยังสำนักงานอื่น ซึ่งส่งผลกระทบต่อพนักงานจำนวนมาก โดยเฉพาะในบริษัทที่มีฐานสหรัฐอเมริกาและแคนาดา

ดารา คอสราวชาฮี (Dara Khosrowshahi) ซีอีโอของอูเบอร์ ระบุในอีเมล์ที่ส่งไปยังพนักงานว่า “ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผู้บริหารของเราได้พิจารณาอย่างรออบคอบเพื่อให้มั่นใจว่า โครงสร้างองค์กรของเราจะประสบความสำเร็จในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า สิ่งนี้ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ยากลำบากยิ่ง แต่ก็จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่า เรามีคนที่เหมาะสมในบทบาทที่ถูกต้องและในสถานที่ที่เหมาะสม และเราถือว่าประสิทธิภาพสูงสุดเป็นความรับผิดชอบของเราเสมอ”

“วันนี้เป็นวันที่ยากลำบากสำหรับเรา แต่เราจะทำงานเพื่อรับประกันว่า บริษัทจะไม่จำเป็นต้องมีวันเช่นนี้อีกในอนาคต” คอสราวชาฮีระบุ

การเลิกจ้างพนักงานครั้งนี้คิดเป็นสัดส่วนราว 1% ของบริษัท ซึ่งก่อนหน้านั้นอูเบอร์ได้เคยเลิกจ้างพนักงานไปแล้ว 2 รอบในระยะเวลา 4 เดือน โดยเลิกจ้างพนักงานในทีมผลิตและวิศวกรราว 435 คนในเดือน ก.ย. และเลิกจ้างพนักงานในแผนกการตลาดราว 400 คนในเดือน ก.ค.

ทั้งนี้ แผนการปรับลดจำนวนพนักงานนี้เป็นผลมาจากแรงกดดันหลังจากที่บริษัทเข้าสู่ตลาดหุ้นในวอลล์ สตรีทในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ทำให้เกิดการเรียกร้องจากความกังวลของผู้ลงทุน ส่งผลให้บริษัทต้องปรับปรุงการบริหารและปรับลดพนักงานอย่างน้อย 1,000 คน เพื่อพยุงรายได้ของบริษัท ท่ามกลางภาวะขาดทุนมากถึง 5,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นในสหรัฐ